ขณะที่ตลาดส่งออก ปัจจุบันได้ส่งสินค้าไปแล้วกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และจะมีการเซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติมอีก ทั้งในประเทศเกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น อังกฤษ แคนาดา อเมริกา และเมียนมาร์ รวมไปถึงประเทศอิตาลี ขณะเดียวกันก็มองการขยายตลาดไปยังประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อีกด้วย
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็นโฉมใหม่ "คูลบอท" (KOOLBOT) 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น MIK-07EC และ MIK-07EX และรุ่น MIK-15EX ซึ่งเป็นพัดลมไอเย็นแบบเคลื่อนที่รุ่นแรกของโลกที่ดึงลมเข้ารอบทิศทาง สามารถลดอุณหภูมิได้สูงสุด 15 องศา แต่ประหยัดกว่าแอร์ 10 เท่า ซึ่งเป็นการพัฒนานวัตกรรมและดีไซน์ให้กะทัดรัด และมีประสิทธิภาพการใช้งาน ตอบโจทย์ลูกค้าบ้านพักอาศัยและคอนโดมิเนียม ที่มีพื้นที่ใช้งานจำกัด โดยในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายสำหรับสินค้าพัดลมไอเย็นรุ่นใหม่นี้ประมาณ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทวางงบลงทุนด้านการตลาดไว้ 60 ล้านบาท โดยจะใช้ในส่วนของ Below the Line และ Above the Line ประมาณ 30 ล้านบาท และอีก 30 ล้านบาท จะเป็นการทำโปรโมชั่นการขายต่างๆ ซึ่งบริษัทมีแผนรุกทำสินค้าเงินผ่อน ที่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับคู่ค้า โดยเงื่อนไขเบื้องต้นน่าจะสามารถผ่อนสินค้าในระดับราคาขั้นต่ำ 2,700 บาท ได้ และนานสูงสุด 6 เดือน ดอกเบี้ย 0% คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงเดือนมี.ค.59 เป็นต้นไป
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการลงทุน ในด้านการขยายกำลังการผลิต และคลังสินค้าเพิ่มเติม ทั้งในประเทศไทยและจีน จากปัจจุบันเดินเครื่องการผลิตอยู่ที่ 80-90% ของกำลังการผลิตโดยรวม คาดว่าหากจะมีการลงทุนน่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยเงินลงทุนบริษัทถือว่ามีความแข็งแกร่ง อีกทั้งหนี้สินต่อทุน (D/E) ก็อยู่ในระดับต่ำที่ 0.6 เท่า
นายนพชัย มองทิศทางเศรษฐกิจปีนี้ว่า แม้จะยังชะลอตัว แต่มั่นใจว่าบริษัทจะยังมีโอกาสที่จะเติบโตไปได้ เนื่องจากสภาพอากาศที่ยังคงร้อนอย่างต่อเนื่องและอาจจะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นผิดปกติกว่าทุกปีจากภาวะเอลนินโญ่ ที่น่าจะมีระยะเวลายาวนานกว่าเดิม
ส่วนภาพรวมการแข่งขันในตลาดพัดลมไอเย็น แม้จะมีผู้เล่นเพิ่มมากขึ้น แต่มองว่าจะไม่มีผลกระทบกับบริษัทเนื่องจากบริษัทมีสินค้าที่มีนวัตกรรมของตนเอง ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบ และด้วยกลยุทธ์การทำตลาดในปีนี้ ที่จะรุกตลาดในวงกว้าง ผ่านช่องทางออนไลน์ที่หลากหลาย จากเดิมมีเพียง ช่องทางขายผ่านโมเดิร์นเทรด อย่าง Home Pro,Makro,MegaHome เป็นต้น อีกทั้งจะขยายไปสู่ห้างสรรพสินค้า เช่น Tesco Lotus และ SINGER ด้วย เพื่อตอกย้ำความเป็นที่ 1 ด้านนวัตกรรมพัดลมไอเย็น และมียอดขายเป็นอันดับ 1
"ปีนี้เราวางเป้าหมายเติบโต 40% จากปีก่อนทำได้ 640 ล้านบาท จากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในทุกช่องทาง และการออกสินค้าใหม่อีก 3 รุ่น ที่จะช่วยดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้ และกระตุ้นให้ลูกค้าได้รู้จัก ซื้อสินค้ามากขึ้น โดยสัดส่วนยอดขายระหว่างพัดลมไอเย็น,ไอน้ำ-ระบายอากาศ จะอยู่ที่ 65:35"นายนพชัย กล่าว
นายนพชัย กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/59 คาดว่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันคาดอัตรากำไรสุทธิปี 59 จะกลับมาอยู่ในระดับปกติได้ ซึ่งการเติบโตเฉลี่ยที่ผ่านมาอยู่ที่ 6-7% แต่ในปี 58 ปรับตัวลดลงไปพอสมควร เป็นผลมาจากมีค่าใช้จ่ายจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน โดยปีนี้บริษัทได้ทำป้องกันความเสี่ยงดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ที่ค่าเงินระดับ 37 บาท/ดอลลาร์