ภาพรวมธุรกิจในปี 59 ภายหลังจากการปรับแผนโครงสร้างองค์กรใหม่ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/59 บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำธุรกิจในเอเชียภูมิภาคอาเซียนทางด้านการพัฒนาอาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า โรงงาน (Logistics Facilities) ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมแบบครบวงจร สาธารณูปโภค พลังงาน และ การให้บริการระบบฐานข้อมูลดิจิทัล ด้วยคุณภาพที่ครอบคลุมการให้บริการในทุกระดับ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่จะตอบโจทย์ต่อแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและการสร้างจุดยืนของประเทศไทยที่ต้องการเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และพร้อมที่จะขยายธุรกิจด้วยโครงสร้างธุรกิจให้บริการครบวงจรไปยังประเทศในภูมิภาค โดยประเทศที่มุ่งเน้นเป็นลำดับแรก ได้แก่ เวียดนาม ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการและการติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
ทั้งนี้ ภายหลังการปรับโครงการองค์กรแล้ว โครงสร้างธุรกิจของบริษัทจะมีความหลากหลายมากขึ้น และเป็นผู้ให้บริการครบวงจรในการให้บริการทางด้านคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค พลังงาน และอสังหาริมทรัพย์ ในระดับมาตรฐานสากล ตลอดจนการบริหารคลังข้อมูลดิจิทัล (data center) ที่ครบวงจร ทั้งด้านการวางระบบฐานข้อมูล และบริการเสริมต่างๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
เบื้องต้นบริษัทฯ วางแผนจะเป็นผู้นำธุรกิจในการให้บริการ 4 HUBS ซึ่งประกอบด้วย LOGISTIC HUB, INDUSTRIAL HUB, UTILITY & POWER HUB และ DIGITAL HUB ซึ่งหากแผนการขยายธุรกิจดังกล่าวสำเร็จ จะส่งผลให้ WHA เป็น Real Sector ที่ครบวงจรแห่งแรกของโลก
“โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ คาดว่าการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมทั้งการรีแบรนด์ดิ้งธุรกิจของบริษัทฯทั้งหมด เพื่อให้ตรงกับวิสัยทัศน์ (Vision) และพันธกิจ (Mission) หลักของบริษัทฯ ทำให้ธุรกิจของ WHA Group มีความหลากหลายและสามารถครอบคลุมการให้บริการในทุกระดับ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ" นางสาวจรีพร กล่าว
พร้อมกันนี้ บริษัทยังเตรียมขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เดิม คือ WHART ในช่วงปลายปีนี้เพิ่ม เพื่อเป็นการเพิ่มขนาดของทรัพย์สินในกองให้มีมูลค่าสูงขึ้นและเป็นแหล่งระดมทุนของบริษัทเพื่อขยายกิจการ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะจัดตั้งกองทรัสต์ HREIT โดยการขายอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ได้แก่ โรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปให้เช่าที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม HEMRAJ และพื้นที่โดยรอบ เพื่อจัดตั้งกองทรัสต์ HREIT ภายในไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 ของปีนี้
ส่วนผลดำเนินงานในปี 58 บริษัทมีรายได้รวม 12,064.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,953.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.5% เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้ค่าเช่า ค่าบริการและค่าสาธารณูปโภค ตลอดจนรายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมจากการเข้าซื้อกิจการของ HEMRAJ
ประกอบกับการรับรู้รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท หรือ WHART เพิ่มทุน (ครั้งที่1) ในมูลค่า 4,645.9 ล้านบาท ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดย WHA สามารถรับรู้เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน จำนวน 4,485.6 ล้านบาท ภายหลังการหักส่วนของรายได้ที่ไม่สามารถรับรู้ได้จากการค้ำประกันรายได้ให้แก่ผู้ถือหน่วยกองทรัสต์ WHART จำนวน 160.3 ล้านบาท ตลอดจนการเติบโตของรายได้ค่าเช่าและค่าบริการของบริษัทเอง
ขณะที่ไตรมาส 4/58 บริษัทมีรายได้รวม 8,809.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,784.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,057.5% จากการรับรู้รายได้และกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ WHART การรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของ HEMRAJ ตลอดจนค่าเช่าที่เติบโตเพิ่มขึ้นจากการให้เช่าพื้นที่คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากยอดจองพื้นที่เช่า (Pre-Leased/ New Contract Area) ที่เพิ่มขึ้น 200,000 กว่าตารางเมตร โดยเป็นฐานลูกค้าเดิมที่ต้องการขยายพื้นที่เช่า ไม่ว่าจะเป็นผู้เช่าที่เป็นต่างชาติ และบริษัทไทยชั้นนำ และลูกค้าใหม่ที่อยู่ในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้แล้วหมดไปอย่างรวดเร็ว (Fast Moving Consumer Goods) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ (3PL) อย่างต่อเนื่อง