ประกอบกับยังมีแผนจะลงทุนในเรื่องของการขยายสาขาบริการน้ำมันบางจากเพิ่มอีก 60 แห่ง และปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเดิม อีกทั้งใช้ในธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-oil) จำนวนรวม 4 พันล้านบาท
ขณะที่บริษัทคาดการณ์ค่าการกลั่น (GRM) ที่ไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 6-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากราว 9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปีก่อน เป็นผลจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นเป็นเวลา 46 วัน ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.ส่งผลกระทบต่อกำลังการกลั่นที่จะปรับลดลงมาอยู่ที่เฉลี่ย 9.6 หมื่นบาร์เรล/วัน จากเฉลี่ย 1.13 แสนบาร์เรล/วันในปีที่แล้ว แต่บริษัทยังคงเป้าหมายกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปีนี้ที่ระดับ 1.26 หมื่นล้านบาท
นายสุรชัย กล่าวด้วยว่า บริษัทประเมินระดับราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 27-43 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือเฉลี่ยทั้งปีที่ 33 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงจากราคาเฉลี่ยในปีที่แล้ว แม้มองว่านอกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจจะลดกำลังการผลิตลง แต่ภาพรวมปริมาณการผลิตน้ำมันยังคงอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลาย ทำให้ระดับราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นน่าจะอยู่ราว 30 เหรียญสหรัฐ/บารร์เรล แต่อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลังยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบที่น่าจะปรับตัวขึ้น หลังผู้ผลิตบางรายอาจลดการผลิตน้ำมัน เนื่องจากไม่คุ้มต้นทุนการผลิต ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะอยู่ที่ 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับความคืบหน้าการนำหุ้นบริษัท บีซีพีจี จำกัด (BCPG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ทำธุรกิจไฟฟ้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น คาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไพลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงปลายเดือน มี.ค.59 และจะเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) อย่างเร็วที่สุดในไตรมาส 4/59 โดยการเข้าระดมทุนครั้งนี้จะนำไปรองรับการขยายธุรกิจ
ทั้งนี้ BCPG มีเป้าหมายขยายกำลังการผลิตภายใน 5 ปี (ปี 59-63) เป็น 500 เมกะวัตต์ จากสิ้นปีก่อนมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 175 เมกะวัตต์ โดยวางงบลงทุน 5 ปีที่ระดับ 4.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นการลงทุนทั้งในประเทศญี่ปุ่นและในไทย ขณะเดียวกันก็มองโอกาสที่จะขยายการลงทุน ไปยังพลังงานลมที่ประเทศเกาหลีใต้ ,ไต้หวัน ,จีน หรือในแถบเอเชีย รวมถึงทวีปยุโรป, สหรัฐ อีกด้วย ซึ่งเบื้องต้นคาดได้เงินจากการระดมทุนขาย IPO ราว 6-8 พันล้านบาท