สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขายจะรุกตลาดแนวราบเป็นหลักและเน้นพัฒนาระดับโครงการที่มีความเชี่ยวชาญและบริหารสัดส่วนรายได้อสังหาริมทรัพย์เพื่อการขายให้อยู่ระดับการเติบโตประมาณ 15% ต่อปี ซึ่งวางแผนเปิดตัว 5 โครงการแนวราบครอบคลุมเซ้กเม้นท์ตลาดบ้านราคา 3 ล้านถึง 10 ล้านบาท ที่มีการเติบโตสูง
ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าและการบริการนั้นคาดจะเริ่มมีการรับรู้รายได้เพิ่มเติมจาก บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด โดยตั้งเป้ารายได้จากการขายและบริการ 4,100 ล้านบาทภายในปีนี้ หลังจากในปีที่ผ่านมาได้รับรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเช่าและบริการคือ ชวนชื่นกอล์ฟคลับ และอาคารสำนักงานให้เช่า นอกจากนั้นยังมาจากการขายที่ดินบางส่วนและจากพรอสเพค ซึ่งดำเนินโครงการพัฒนาคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า ในเขตปลอดอากรและเขตทั่วไป
ล่าสุด ได้ดำเนินการออกหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และไม่มีผู้แทน มูลค่ารวม 500 ล้านบาท อายุ 3 ปี 9 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ.2562 อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.50 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ โดยเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ฟินันซ่า จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ ซึ่งได้ให้เปิดจองซื้อในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจนถึง 3 มีนาคม 2559
"MK นับได้ว่าเป็นบริษัทฯที่มีผลประกอบการที่ดี และฐานะการเงินแข็งแกร่ง การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อเป็นการนำมารองรับการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทในอนาคต เพื่อต่อยอดแผนการดำเนินงานตามแผนปี 59 ซึ่งคาดว่าจะได้การตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี"นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า ในปี 58 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการผลักดันการเปิดตัวโครงการต่างๆ ตามแผนที่ได้วางไว้ และด้วยจุดแข็งในการพัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพในทำเลทองของแหล่งที่อยู่อาศัย และการวางกลยุทธ์ปรับภาพลักษณ์องค์กร เพื่อมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน โดยบริษัทประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในปี 58 ด้วยการรับรู้รายได้รวมจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขายและเพื่อการเช่าและบริการ เป็นเงินทั้งหมด 3,749 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 60% เมื่อเทียบกับปี 2557 ส่วนด้านกำไรสุทธิสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 40% หรือเท่ากับ 626 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีกำไร 447 ล้านบาท
ปัจจัยที่ทำให้บริษัทสามารถทำรายได้และกำไรสุทธิได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์นี้ มาจากการวางแผนกลยุทธ์ปรับปรุงภาพลักษณ์ การปรับดีไซน์และภูมิทัศน์ของโครงการที่อยู่อาศัยทั้งหมด รวมถึงกลยุทธ์ทางด้านการขายและการตลาดเชิงรุก จึงทำให้บริษัทสร้างยอดขายทะลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้
โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงถึง 25% เทียบกับปีก่อนหน้าที่มียอดขาย 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทมียอดขายสูงจากโครงการออกัสท์คอนโดมิเนียม โครงการชวนชื่นจรัญฯ 3 และโครงการชวนชื่น กรีนบาวด์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า นอกจากนั้น บริษัทประสบความสำเร็จในการโอนกรรมสิทธิ์ โดยเฉพาะการมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการโอนโครงการออกัสท์คอนโดมิเนียมได้ถึง 100% บางส่วนของรายได้มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเช่าและบริการ
"ความสำเร็จของปี 58 จะต่อยอดการดำเนินธุรกิจในปี 59 ได้เป็นอย่างดี เราคาดการณ์รายได้เติบโตกว่า 10%"นายสุเทพ กล่าว