(เพิ่มเติม) BANPU มั่นใจปีนี้พลิกมีกำไร เล็งสรุปซื้อเหมืองใหม่-ขยายลงทุนโซลาร์ฟาร์ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 25, 2016 18:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู (BANPU) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะพลิกกลับมามีกำไรจากปี 58 ที่มีผลขาดทุน 1.5 พันล้านบาท เนื่องจากปีนี้บริษัทจะรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าหงสาครบทั้ง 3 ยูนิต กำลังการผลิตรวม 1,878 เมกะวัตต์ ซึ่งยูนิตที่ 3 จะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในวันที่ 2 มี.ค.59 โดยบริษัทจะได้รับกำไรจากโรงไฟฟ้าหงสาในปีนี้ 70 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่า EBITDA ปีนี้จะอยู่ที่ 600 ล้านเหรียญ โดยสัดส่วน EBITDA จากธุรกิจโรงไฟฟ้าในช่วงปี 59-60 จะเพิ่มเป็น 25-30% จากปี 58 อยู่ที่ 20% และคาดว่าในระยะยาวใน 5 ปี สัดส่วนกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าภายใต้สมมติฐานราคาถ่านหินในปัจจุบันจะอยู่ที่ 50%

สำหรับราคาถ่านหินในตลาดโลกนั้น บริษัทมองว่าขณะนี้ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีโอกาสทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยคาดว่าราคาถ่านหินปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 52 เหรียญสหรัฐ/ตัน สูงขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 49 เหรียญสหรัฐ/ตัน

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่สามารถประเมินราคาขายถ่านหินของบริษัทในปีนี้ได้ว่าจะสูงกว่าราคาขายในปีก่อนที่ 49 เหรียญสหรัฐ/ตันมากน้อยเท่าใด เพราะเพิ่งเริ่มขายได้เพียง 2 เดือน แต่ราคาขายล่วงหน้าในสัดส่วน 43% ของปริมาณขายทั้งหมดอยู่ที่ 55 เหรียญสหรัฐ/ตัน และคาดว่าปริมาณการขายถ่านหินในปีนี้จะอยู่ที่ 44 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่ระดับ 41.4 ล้านตัน เนื่องจากเหมืองออสเตรเลียและอินโดนีเซียที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น

ขณะที่ปริมาณการผลิตถ่านหินของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 46.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 41 ล้านตัน โดยแบ่งเป็น กำลังการผลิตจากเหมืองในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเป็น 13.6 ล้านตัน จากเปีก่อนอยู่ที่ 13 ล้านตัน เหมืองในอินโดนีเซียเพิ่มเป็น 28.5 ล้านตัน/ปี จากปีก่อนที่ 28 ล้านตัน/ปี และเหมืองในจีนเท่ากับปีก่อนที่ 10 ล้านตัน/ปี

บริษัทวางงบลงทุนในปีนี้ไว้ที่ 390 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ลงทุนต่อเนื่องในโรงไฟฟ้าหงสา ส่วนที่เหลือใช้ลงทุนโรงไฟฟ้าอื่นๆ โดยงบลงทุน 5 ปี (59-63) ตั้งไว้ที่ 554 ล้านเหรียญสหรัฐ แหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทที่ ณ สิ้นปี 58 มีอยู่ 450 ล้านเหรียญสหรัฐ และบางส่วนจะมาจากการเงินกู้ โดยบริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ในปีนี้ราว 5,000-10,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เพื่อชดเชยหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดไถ่ถอนในปีนี้ราว 200 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาระยะเวลาการออกและสกุลเงินของหุ้นกู้ดังกล่าว

นางสมฤดี กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า โดยเฉพาะในต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนหลายโครงการทั้งในจีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ลาว เวียดนาม และกัมพูชา คาดว่าสิ้นปี 59 จะได้สัญญาขายไฟ (PPA) เพิ่มอีก 100 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีอยู่ 54 เมกะวัตต์ อยู่ในญี่ปุ่น โดยจะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถ COD ได้ในช่วงต้นปี 60

พร้อมกันนั้น บริษัทยังมีแผนเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าในอินโดนีเซียหลายโครงการ ขนาดกำลังการผลิตในช่วง 100-300 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเป็นการร่วมมือกับพันธมิตรล แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ รวมทั้งจะเดินหน้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้า JAVA 3 กำลังการผลิต 300 เมกะวัตต์ ร่วมกับพันธมิตรเช่นเดียวกัน

ด้านการลงทุนในธุรกิจถ่านหินนั้น นางสมฤดี กล่าวว่า บริษัทมีแผนเข้าซื้อกิจการเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียเพิ่มเติมในปีนี้ ซึ่งที่ตั้งของเหมืองอยู่ใกล้กับเหมืองของบริษัท โดยเป็นเหมืองที่มีปริมาณสำรองถ่านหินไม่ต่ำกว่า 50 ล้านตัน เพราะมองว่าการซื้อเหมืองเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้บริษัทสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต จากแนวโน้มราคาถ่านหินที่มีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น คาดว่าใน 10 ปีข้างหน้าราคาถ่านหินมีโอกาสสูงขึ้นมาที่ 70 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากปีนี้ที่ 52 เหรียญสหรัฐ/ตัน

ขณะที่เหมืองถ่านหิน coal tar ในมองโกเลียนั้น เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตได้ภายในปี 60 ซึ่งเลื่อนจากกำหนดเดิมในปี 57-58 โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแนวโน้มความต้องการใช้ ปริมาณการผลิตที่เหมาะสม และความคุ้มค่าในการลงทุน ภายใต้งบลงทุนศึกษา 2 ล้านเหรียญสหรัฐ และประเมินเงินลงทุนเบื้องต้นในโครงการนี้ราว 50 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่หากตัดสินใจลงทุนในปริมาณการผลิตที่สูงก็อาจจะหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนในโครงการนี้

นางสมฤดี ยังกล่าวถึงแผนการนำ บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า อาจจะต้องเลื่อนไปเป็นในช่วงครึ่งปีหลัง จากเดิมที่คาดว่าจะเข้าตลาดฯได้ในไตรมาส 2/59 แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ เพราะจะต้องขึ้นอยู่กับภาวะตลาดที่เอื้ออำนวย ทั้งนี้ หากภาวะตลาดหุ้นกลับมาดีจะดำเนินการเข้าจดทะเบียนทันที


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ