ส่วนกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดต่างประเทศนั้น มองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเนื่องจากตลาดเวียดนามเป็นตลาดที่ยังมีความต้องการถ่านหินสูง และในอนาคตมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเวียดนามเป็นประเทศที่ยังมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง แม้ยอดคำสั่งซื้อในปัจจุบันจะยังไม่สูง ส่วนตลาดในประเทศยังเน้นขยายตลาดในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม
"ปีนี้ผลการดำเนินงานเราปรับตัวดีขึ้น โดยเราเน้นแผนลดต้นทุนในทุกส่วน รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลคุณภาพสินค้าที่จะส่งให้ลูกค้า รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานของคลังสินค้าและท่าเรือ การบริหารต้นทุนการขนส่ง โดยในช่วงปลายปี 58 บริษัทได้มีการขายรถขนส่งออกไป เพื่อใช้รถขนส่งจากพันธมิตรในราคาที่แข่งขันได้แทน ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนอย่างถาวร และเน้นขยายตลาดลูกค้าในประเทศเพิ่มขึ้น พร้อมกับวางแผนบุกตลาดทางเลือกอื่น อย่างตลาดเวียดนามที่เราให้ทีมมาร์เก็ตติ้งไปบุกตลาดมาก่อนแล้ว และได้เริ่มมีการขายไปในช่วงปี 58 โดยตลาดนี้ก็ยังมีความต้องการถ่านหินสูงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เราเชื่อว่าจะเป็นส่วนสนับสนุนให้เป้ายอดขายถ่านหินเติบโตสูงขึ้นในอนาคต"นายพนมกล่าว
สำหรับผลประกอบการปี 58 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 4,226.55 ล้านบาท ลดลงจากปี 57 ที่มีรายได้ 6,606.88 ล้านบาท หรือลดลง 36.03% ขณะที่มีกำไรสุทธิจำนวน 110.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 168.96% เมื่อเทียบกับปี 57 ที่มีผลขาดทุน 41.08 ล้านบาท เนื่องจากเริ่มเห็นผลจากกลยุทธ์ลดต้นทุนที่บริษัทดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านคลังสินค้าและการขนส่ง รวมถึงการขยายการตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น อีกทั้ง การเปิดตลาดในประเทศเวียดนาม ส่งผลให้ปี 58 มีปริมาณการขายถ่านหินที่ระดับ 2 ล้านตัน