TACC ตั้งเป้าปี 59 รายได้โตไม่ต่ำ 15% ขยายตลาดกัมพูชา จีน ลาว

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 26, 2016 11:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบปี 58 มีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยปัจจัยหนุนสำคัญมาจากรายได้จากธุรกิจที่มีการร่วมพัฒนา (B2B) ร่วมกับ 7-Eleven ซึ่งถือเป็นคู่ค้าพันธมิตร หลังติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติเพิ่มอีก 740 เครื่องในปีนี้ คาดว่าสัดส่วนรายได้จาก B2B ในปีนี้จะอยู่ที่ 80-85% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือ 15-20% เป็นรายได้ที่มาจากสินค้าที่จำหน่ายออกสู่ผู้บริโภคโดยตรง (B2C) ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ว่าจะเป็น เครื่องดื่ม ชาเขียว "เซนย่า" กาแฟ "วี-สลิม" เครื่องดื่ม"ณ อรุณ" และเครื่องดื่ม "สวัสดี"

ขณะเดียวกัน ในปีนี้บริษัทยังเตรียมขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้นเพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยเฉพาะในประเทศกัมพูชา จีน และลาว ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 12% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 8% ของรายได้รวม

ในปี 59 บริษัทฯเตรียมขยายการลงทุนในธุรกิจ"เครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ" (Vending Machine) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มร้อนประเภทชาและกาแฟในร้าน 7-Eleven เพิ่มอีก 740 เครื่อง จากปีที่ผ่านมาติดตั้งไปแล้ว 10 เครื่อง ซึ่งกระแสตอบรับจากผู้บริโภคดีมาก หลังจากได้มีการทดสอบตลาดไปแล้ว และในปี 2560 ติดตั้งเพิ่มอีก 750 เครื่อง กระจายตามสาขาของ 7-Eleven ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,500 เครื่อง โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 120 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 บริษัทฯมีรายได้จากยอดขายอยู่ที่ 260.50 ล้านบาท กำไรสุทธิ 13.66 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานโดยรวมในปี 58 มีรายได้จากยอดขายจำนวน 1,004.44 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 67.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 31.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายชัชชวี กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวในปีที่ผ่านมาส่งผลให้ยอดขายและรายได้ของบริษัทฯทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าที่มียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กำไรขั้นต้นในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทฯมีรายได้จากการขายสินค้ากลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการผลิตสินค้าจากโรงงานผลิตเครื่องดื่มปรุงสำเร็จได้อย่างเต็มที่จึงทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง อีกทั้งยังมีการควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายอย่างรัดกุม จึงทำให้ปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีรายได้จากยอดขายที่ใกล้เคียงกัน

"หลังจากที่เราได้ติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มร้อนประเภทชาและกาแฟในร้าน 7-Eleven กระจายตามมุมเมืองของกรุงเทพฯ 10 สาขา ในปลายปีที่ผ่านมา กระแสตอบรับของผู้บริโภคดีมาก เพราะเครื่องดื่มร้อนของเราไม่ว่าจะเป็น กาแฟ ชาเขียว โกโก้ ได้มีการคิดค้น และพัฒนาสูตรมาเป็นอย่างดี จากทีมงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่ม ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมถูกคอผู้บริโภค ผมมั่นใจว่าหลังจากที่เราทยอยติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มตามแผน รายได้ของบริษัทฯจะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากโปรดักท์นี้"นายชัชชวี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ