สำหรับปริมาณการขายที่เติบโตขึ้นในปีนี้จะมาจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันตลาดหลักของบริษัทคือกัมพูชา แต่ปริมาณยังมีไม่มากนัก โดยมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกอยู่ที่ 1-2% ของรายได้รวม เนื่องจากบริษัทไม่มีผลิตภัณฑ์เป็นของตนเอง ทำให้โอกาสการขยายฐานลูกค้าต่างประเทศเป็นไปได้ค่อนข้างยาก
นอกจากนี้ บริษัทได้เข้าไปรับงานดูแลประสิทธิภาพการผลิตของลูกค้า ซึ่งสัดส่วนรายได้จากงานดังกล่าวอยู่ที่ราว 5 % ของรายได้รวม โดยงานดังกล่าวให้อัตรากำไร (มาร์จิ้น)ค่อนข้างสูง ทำให้ปีนี้บริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากส่วนนี้เป็น 10 % ในอนาคต สำหรับสัดส่วนการนำเข้าวัตถุดิบเพิ่มขึ้นเป็น 30-35% จากปีก่อนที่ 25-30% โดยปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า ทำให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 4-5 ล้านบาท แต่ในสภาวะที่อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวน บริษัทก็จำเป็นตัองมีการดูแลควบคุมเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดผลขาดทุน
นายสมชาย กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 10-20 ล้านบาท มาจากกระแสเงินสดในมือ โดยจะใช้สำหรับการปรับปรุงห้องแล็บและทดสอบวัตถุดิบ อีกทั้งบริษัทยังเปิดโอกาสทางธุรกิจให้พันธมิตรเข้ามาร่วมทุน ซี่งไม่จำกัดธุรกิจ ไม่จำกัดขนาด แต่ต้องเกิดประโยชน์ร่วมกันในการสร้างการเติบโตในอนาคต เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่และส่งผลดีทั้งต่อบริษัทและพันธมิตร แต่ปัจจุบันยังไม่ได้มีการเจรจากับพันธมิตรรายใด