แม้ปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่ารายได้ในปีน่าจะใกล้เคียงจากปีก่อน เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาจะเป็นปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น เพราะหลังจากข้อตกลงในการกำหนดราคาซื้อสินค้าล็อตก่อนสิ้นสุดลง ลูกค้าที่สั่งสินค้าล็อตใหม่จะต่อรองราคาสินค้าลงตามราคาวัตถุดิบที่ปรับลดลง ทำให้รายได้รวมโดยเฉลี่ยน่าจะอยู่ในลักษณะทรงตัว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการปรับตัวลดลงของราคาวัตถุดิบจะไมได้ทำให้รายได้รวมเพิ่มขึ้นแต่ก็จะส่งผลดี โดยคาดว่าจะทำให้อัตรากำไรสุทธิในปีนี้เติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผนวกกับการที่บริษัทฯ ได้เดินหน้าปรับโครงสร้างการผลิต โดยขยายคอขวดในกระบวนการผลิต รวมทั้งเพิ่มจำนวนถังย้อม ปรับพื้นที่โรงงานใหม่ เพื่อควบคุมต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้เพิ่มมากขึ้น
นายสุวัชชัย กล่าวถึงความคืบหน้าในโครงการร่วมทุน 40% กับบริษัทบริษัทพาราเม้าท์ ไฮด์ เลเธอร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรฮ่องกง ในการจัดตั้งบริษัท อินทิเกรเต็ด เลเธอร์ เน็ตเวอร์ค จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าสำหรับหนังทุกประเภท (Leather Platform Service) ในประเทศไทย โดยคาดว่า จะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่แข็งแกร่ง และบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่นี้จะช่วยทำให้ยอดวงเงินสำหรับสินค้าคงคลังลดลง ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการสต็อกสินค้าได้ประมาณ 100-200 ล้านบาท และยังช่วยให้บริษัทฯ สามารถบริหารวัตถุดิบได้ดีขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องสต็อกวัตถุดิบไว้เป็นจำนวนมากเหมือนที่ผ่านมา
ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 58 บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,315.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 36.58 ล้านบาท ลดลง 58.88% จากระยะเวลาเดียวกันของปี 58 ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่คำสั่งซื้อและปริมาณการขายหนังฟอกของบริษัทฯ ยังคงเติบโตได้ได้อย่างต่อเนื่อง
“ต้องยอมรับว่าตั้งแต่ปี 58 จนถึงปีนี้ ภาวะเศรษฐกิจยังน่ากังวล เพราะเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว อัตราแลกเปลี่ยนยังคงผันผวนตามกระแสการไหลเข้าออกของเงินทุน แต่ในปีนี้ เราเตรียมพร้อมรับมือกับปัจจัยต่างๆ อย่างรอบด้านและรัดกุมขึ้น ตั้งแต่การบริหารต้นทุนวัตถุดิบ การปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพงานด้านการขายและตลาด เพื่อรักษาฐานรายได้ ทำให้ CPL มั่นใจว่าในปี 59 เราจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรมตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แน่นอน"รองกรรมการผู้จัดการ CPL กล่าว