สำหรับกลยุทธ์การตลาดปี 59 บริษัทจะดำเนินงานตามแผนธุรกิจ โดยแบ่งเป็น 3 กลยุทธ์ ได้แก่ 1.รักษาความเป็นผู้นำด้านธุรกิจอีเว้นท์ เอเจนซี่ อันดับหนึ่งของประเทศ ด้วยการพัฒนาขีดความสามารถ และศักยภาพของบุคคลากร ให้มีไอเดียสร้างสรรค์ ใหม่ๆ เพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าตลอดจนนำเทคนิคที่ทันสมัยมาใช้ในธุรกิจ ทั้งในแง่ของการเป็นผู้บริหารการจัดงาน (Event Organizer) และในกลุ่มของงานด้านบริการระบบภาพ แสงและเสียง แบบครบวงจร ซึ่งเป็นกลุ่มงานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทฯ โดยผลงานที่โดดเด่น อาทิเช่น เป็นซัพพลายด้านระบบภาพแสงและเสียงในการแข่งขันมวยไทยนานาชาติ THAI FIGHT,คอนเสริ์ตในกลุ่มบีอีซี เทโร (BEC TERO) ทั้งศิลปินไทยและต่างประเทศ รวมถึงเข้าไปมีส่วนร่วมให้บริการด้านภาพและเสียงในรายการโทรทัศน์ชั้นนำกว่า 5 รายการ อีกด้วย
กลยุทธ์ที่ 2 ต่อยอดธุรกิจให้มีความหลากหลาย เพื่อสร้างรายได้ประจำ ให้เกิดการเติบโตที่ยั่งยืน ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ จะเปิดตัว“หิมพานต์ อวตาร"ซึ่งเป็นการแสดงวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย ผสานเทคนิคแสงสีเสียง นับว่าเป็น Cultural Walking Theme Park แห่งแรกในประเทศไทย โดยจะตั้งอยู่ที่ Show DC เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แห่งใหม่ ย่านพระราม 9 นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจสวนสนุก “อิเมจิเนีย เพลย์แลนด์" (Imaginia Playland) ที่เที่ยวสำหรับเด็กตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม ที่เปิดให้บริการตั้งแต่เดือน ส.ค.ปีที่แล้ว อีกด้วย
"บริษัทต้องปรับตัว เพื่อสร้างความมั่นคงให้บริษัท ในระยะยาว และสร้างความสมดุลสัดส่วนรายได้ให้คงที่ โดยเริ่มพัฒนาธุรกิจที่ไม่ใช่แค่การจัดอีเว้นท์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว เช่น การให้บริการติดตั้งอุปกรณ์ถาวร และทำ Mapping ที่ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ (The Em Quartier) รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากพื้นที่ Bangkok Creative Playground ซึ่งเป็นที่ตั้งของออฟฟิศ CMO โดยเราเปิดบริการให้เช่าสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์ ,ละคร ตลอดจนหนังโฆษณา ซึ่งที่ผ่านมาก็สร้างรายได้ประมาณ 3 ล้านบาท" นายเสริมคุณ กล่าว
สำหรับกลยุทธ์ ที่ 3 ขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอาเซียน ซึ่งจะเน้นที่กลุ่มประเทศ CLMV (ประเทศกัมพูชา,ลาว,เมียนมาร์ และเวียดนาม) โดยรูปแบบจะพิจารณาจากเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ เป็นหลัก แต่จะเป็นในลักษณะของงานกิจกรรมการตลาด (Event Marketing) มากกว่า ซึ่งจะรุกตลาดไปพร้อมกับแบรนด์ของไทยที่มีแผนจะขยายงานในต่างประเทศ ทั้งนี้ผลงานที่ผ่านมาในตลาดอาเซียน ได้แก่ แคมเปญ SEA Games Lucky Cards ที่ประเทศพม่า ,จัดแสดงโชว์แสงเสียง ที่ Angkor Wat ประเทศกัมพูชา และจัดงานเปิดโรงงานโคคา-โคล่า ที่ประเทศลาว เป็นต้น
ส่วนผลการดำเนินงานปี 58 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 301 ล้านบาท หรือคิดเป็น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 34 ล้านบาท จากการเติบโตนี้ ทำให้บริษัทพลิกกลับมามีกำไร นอกจากนี้ยังเป็นปีที่บริษัทฯ ทำยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
“ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า บริษัทฯ เติบโตโดดเด่นอย่างมาก ด้วยยอดขายที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ตอกย้ำว่าเราเป็นบริษัทอีเว้นท์อันดับ 1 ของประเทศไทย ที่มีเส้นทางเติบโตอย่างมั่นคงมาตลอด 30ปี ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการที่ลูกค้ามีความไว้วางใจใช้บริการและเชื่อมั่นในคุณภาพงานของบริษัทฯ โดยมีลูกค้าหลากหลายครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม และ บริษัทฯ สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมได้เป็นอย่างดี...
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้พัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ที่เข้ากับเทรนด์และตอบสนองไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยกลุ่มธุรกิจ โมเมนตัมเอส ซึ่งจัดอีเว้นท์ Private Lifestyle ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มเซเลปดารา และจัดงานเปิดตัวสินค้าด้านแฟชั่นให้กับแบรนด์ชั้นนำต่างๆ อีกมากมาย" นายเสริมคุณ กล่าว