นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิปี 59 จะอยู่ที่ราว 120 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 30% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 94.64 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีการปรับระบบการบันทึกบัญชีใหม่ และบริษัทตั้งเป้าที่จะมีการซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มอีก 2 หมื่นล้านบาท จากช่วงสิ้นปี 58 มีพอร์ตบริหารหนี้อยู่ 8.8 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 59 บริษัทจะมีพอร์ตบริหารหนี้ทะลุ 1 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังรุกธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/58 ที่ผ่านมา ผ่านบริษัทย่อยชื่อ บริษัท เจเอ็มที พลัส จำกัด โดยเริ่มจากการปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้าของเจมาร์ทเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือภายใต้บริการ เจ มันนี่ (J-Money) ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มอีก 2 พันล้านบาทในปีนี้ จากสิ้นปีก่อนมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 597 ล้านบาท
"ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้แบงก์ขายหนี้ออกมาเยอะและเป็นดอกาสของ JMT ที่จะเข้าซื้อหนี้ทั้งจาก Bank และ Non-Bank เข้ามาบริหารเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้เราจะมีการเติบโตจากธุรกิจปล่อยสินเชื่อบริษัทย่อย JMT PLUS ที่ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าที่จะปล่อยสินเชื่อในวงเงิน 2 พันล้านบาท โดยปีนี้เองจะเห็นกำไรสุทธิของเราขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 120 ล้านบาท และปี 60 จะขึ้นไปถึง 300 และปี 61 จะโตเป็นเท่าตัว หรือราว 600 ล้านบาท"นายปิยะ กล่าว