ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเข้ามา 100 เมกะวัตต์ ทั้งนี้โครงการส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น โดยในญี่ปุ่นนั้นบริษัทร่วมกับบริษัท Kyocera Corporation และบริษัท Century Tokyo Leasing Corporation หรือ TCL ร่วมทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์ม ขนาด 30 เมกะวัตต์ ณ เมือง Tottori ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีการเจรจาอีกกว่า 300 เมกะวัตต์ เพื่อสนับสนุนให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 500 เมกะวัตต์
นอกจากนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้จาก การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ราว 400 ล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักคือ 1.บ้านและที่อยู่อาศัยทั่วไป 2. บ้านในโครงการ และ 3.โรงงานและอาคารขนาดใหญ่ ทั้งนี้ โซลาร์รูฟท็อป ถือว่าจะเป็นรายได้สำคัญให้บริษัทฯ ในปีนี้เพราะ โซลาร์รูฟท็อป ถือว่าให้มาร์จิ้นสูง หรือไม่ต่ำกว่า 10 %
"ปีนี้เรายังคงมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรามีการรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปีเต็ม 36 โครงการ เราเป็นหุ้นที่มี P/E ต่ำมาก เพียง 9.15 เท่า ในขณะเดียวกันเราก็เป็นบริษัทฯที่มีการปันผลอย่างต่อเนื่อง และจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต"นางสาววันดี กล่าว