ขณะที่บริษัทคาดรายได้ปี 59 จะเติบโตราว 15% จากปีก่อนที่ทำได้ 5,205 ล้านบาท โดยเติบโตจากธุรกิจในประเทศมาจากการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในผลิตภัณฑ์เดิม ซึ่งจะมีการเปลี่ยนรูปแบบแพคเกจจิ้งและรสชาติให้มีความทันสมัยถูกใจผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงยอดขายจากการส่งออกไปยังต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ของบริษัทที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันบริษัทร่วมทุน Monde Malee Beverage Corporation (MMBC) ในฟิลิปปินส์คาดจะเริ่มจำหน่ายสินค้าตัวแรกภายในอีก 2 สัปดาห์จากนี้ ซึ่งจะสามารถเพิ่มยอดขายรวมของบริษัทให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญได้ อีกทั้งการรับจ้างผลิต (OEM) ก็ถือว่าบริษัทเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ซึ่งโอกาสของ OEM ยังมีอยู่มากทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่
นายปัญญา กล่าวว่า อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิในปีนี้คาดว่าจะดีกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 32.8% และ 6% ตามลำดับ เนื่องจากบริษัทฯมีการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ทั้งการบริหารจัดการ working capital และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) โดยในปีนี้บริษัทฯยังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ หรือออกผลิตภัณฑ์ใหม่มากนักก็น่าจะช่วยให้ต้นทุนต่างๆ ลดลง
พร้อมกันนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่จะสามารถต่อยอดธุรกิจหลัก และใช้ช่องทางการจำหน่ายที่บริษัทมีอยู่เดิม ซึ่งบริษัทยังคงมองหาโอกาสขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีความชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรมในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม หากมีการลงทุนใดๆเกิดขึ้น กระแสเงินสดที่มีอยู่ก็มีความเพียงพอและอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง อีกทั้งมีระดับหนี้สินต่อทุน(D/E) เพียง 1.44 เท่า
"เรามองการเติบโตราว 15% จาก domestic Market เพิ่มมาร์เกตแชร์ของธุรกิจ ซึ่งในปีนี้น่าจะยังไม่เห็นการออกสินค้าใหม่ๆ แต่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงแพคเกจจิ้ง และรสชาติที่แปลกตามากขึ้น ขณะที่ยอดขายจากต่างประเทศก็ยังคงเติบโตต่อเนื่อง และธุรกิจ OEM ที่ยังมีโอกาสทางธุรกิจอยู่ทั้งในลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ โดยเราวางงบการตลาดราว 7% จากยอดขายรวม" นายปัญญา กล่าว
บริษัทยังอยู่ระหว่างเตรียมเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิ่มทุนของบริษัทแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) โดยบริษัทจะเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกจำนวน 84,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 84,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 42,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น รวมทั้งจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 28,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 14,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด