ทั้งนี้ สำหรับยอดขายในไตรมาส 1/59 บริษัทคาดว่าจะทำได้ราว 500-600 ล้านบาท
ขณะที่ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 2 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 2.13 พันล้านบาท โดยในไตรมาส 1/59 จะมียอดโอนจากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) จำนวน 200 ล้านบาท จากทั้งหมด 600 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด ประกอบกับ บริษัทยังมีสต๊อกโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและรอโอนรองรับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ 10 โครงการ มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท คาดว่าในช่วง 2 เดือนที่เหลือของมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จะระบายสต๊อกได้ราว 600 ล้านบาท
ส่วนแผนการเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 3.7 พันล้านบาท เป็นโครงการแนวราบในปริมณฑลทั้งหมด โครงการแรกเป็นบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ชื่อว่า“ฌาม"สนามกอล์ฟธัญญะ-วงแหวนลำลูกกา ติดรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม จำนวน 200 ยูนิต มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท โดยเปิดขายรอบพิเศษไปจำนวน 10 ยูนิต ขายไปแล้ว 6 ยูนิต และจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือน มี.ค.นี้ ส่วนอีก 2 โครงการที่ลำลูกกา และพุทธมณฑลสาย 5 คาดว่าจะเปิดในไตรมาส 4/59
ส่วนงบซื้อที่ดินในปีนี้บริษัทคาดว่าจะใช้ราว 500 ล้านบาทเท่ากับปีก่อน
นายสมเชาว์ กล่าถึงการศึกษาการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ อย่างเช่น ธุรกิจโรงพยาบาล หรือการทำบ้านผู้สูงอายุ ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาและยังไม่มีความชัดเจนที่แน่ชัดในเร็วๆนี้ รวมถึงการร่วมทุนกับพันธมิตรจากจีนในการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่เชียงใหม่และพัทยา ยังอยู่ระหว่างการเจรจา และบริษัทก็มีการเจรจากับพันธมิตรจากประเทศอื่นด้วย ซึ่งการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในเชียงใหม่ บริษัทยังมีที่ดินที่ยังไม่ได้ทำการพัฒนาอยู่ทั้งหมด 18 ไร่