ทั้งนี้ บริษัทคาดว่า ธุรกิจ UTILITY & POWER จะมีมาร์เก็ตแคปประมาณ 25,000-30,000 ล้านบาท ขณะที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตได้อีกมาก และมีแผนขยายการลงทุนในต่างประเทศด้วย
นางสาวจรีพร กล่าวว่า ในวันที่ 3 มี.ค.นี้ บริษัทฯจะแถลงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ โดยจัดโครงสร้าง แบ่งเป็น 4 HUBS คือ Logistic Hub, Industrial Hub, Utility & Power Hub และ Digital Hub เพื่อมอบหมายให้บริษัทลูกเข้าดูแลธุรกิจโดยเฉพาะในแต่ละ HUBs
เบื้องต้น UTILITY & POWER จะดูแลธุรกิจเกี่ยวกับบริการด้านสาธารณูปโภค และ พลังงาน เช่น โซลาร์รูฟท็อป โรงไฟฟ้า ขณะที่ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินโฟนิท จำกัด จะดูแลธุรกิจด้านดิจิตอล หลังจากบริษัทจัดตั้งคลังข้อมูลดิจิทัล (data center) ให้บริการจัดเก็บข้อมูลกับลูกค้าที่เช่าคลังสินค้า ซึ่งจะมีรายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/59 เป็นต้นไป ส่วน บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) จะดูแลรกิจการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม (Industrial Estate)
"สำหรับ WHA ก็จะเป็นกรุ๊ป ที่จะต้องดูแลธุรกิจทุกอย่างของบริษัทลูก และยังจะดูแลธุรกิจ Logistic ต่อไป ซึ่งบริษัทฯก็มีแผนจะออกไปขยายธุรกิจในต่างประเทศด้วย โดยมองแถบอาเซียนก่อน ซึ่งขณะนี้ได้ขยายการลงทุนด้าน Logistic ที่อินโดนีเซียแล้ว ตอนนี้ก็กำลังดูที่เวียดนามอยู่ ใกล้จะปิดดีลแล้ว ตรงนี้ทำได้ทั้ง Logistic และ Industrial"นางสาวจรีพร กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ WHA กล่าวถึงรายการบิ๊กล็อตหุ้น WHA ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ว่า เป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ขายให้กับ 2 กองทุนขนาดใหญ่ คือ Capital research และ Templeton เป็นหลัก แต่ก็ยังมีส่วนที่ขายให้กับ Rays Captital และ Kasikorn Asset ด้วย ซึ่งเป็นการเข้ามาลงทุนระยะยาวของนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ
"ก่อนหน้านี้ Capital research ได้ถือหุ้น WHA อยู่ก่อนแล้ว และครั้งนี้ก็เป็นการเข้ามาถือหุ้นเพิ่ม ส่วนทาง Templeton เป็นกองทุนที่ติดต่อสนใจเข้ามาร่วมทุนตั้งแต่เมื่อครั้งที่บริษัทไปให้ข้อมูลกับนักลงทุน (โรดโชว์) ที่สหรัฐอเมริกา จากนั้นก็ตามมาขอข้อมูลด้านธุรกิจเพิ่มเติม แต่ในขณะนี้ P/E ของบริษัทยังสูง แต่ขณะนี้เขาเห็นว่าเหมาะสมจะลงทุน จึงได้เข้ามาร่วมลงทุนด้วย"นางสาวจรีพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม การขายหุ้น WHA ครั้งนี้คิดเป็นสัดส่วนเพียงแค่ราว 5% เท่านั้น และกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมก็ยังถือหุ้นรวมกันประมาณ 60% ซึ่งหลังจากการขายหุ้นครั้งนี้แล้วก็ยังจะคงสถานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เช่นเดิม
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ นางสาวจรีพร คาดว่า รายได้จะมีไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท โดยเป็นรายได้ที่มาจาก HEMRAJ และมาจากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) เป็นหลัก