PF คาดเจรจาร่วมทุน SCI-พันธมิตรสรุป เม.ย.59 รุกพลังงานทดแทน-บริการสาธารณูปโภค

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 1, 2016 16:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรรัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการเจรจากับพันธมิตรอีก 2 ราย ได้แก่ บมจ.เอสซีไอ อีเลคตริค (SCI) และผู้ถือหุ้นรายอื่น เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนและสาธารณูปโภค คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน เม.ย.59 โดยเบื้องต้นกำหนดมีสัดส่วนการถือหุ้น 40:40:20 ตามลำดับ

ทั้งนี้ บริษัทมองว่าการลงทุนดังกล่าวจะมุ่งไปสู่ธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่อิงไปตามภาวะเศรษฐกิจ และได้รับผลกระทบพอสมควรหากเศรษฐกิจอยู่ในช่วงผันผวน ทำให้บริษัทไม่สามารถควบคุมปัจจัยบางอย่างได้

"เรามองว่าการเปิดโครงการใหม่ของอุตสาหกรรมโดยรวมน่าจะเติบโตได้ 5% แม้การเติบโตในปีนี้จะยังมีข้อจำกัดอยู่ แต่เมื่อเทียบกับปีก่อนถือว่ายังมีปัจจัยบวกมากกว่าปัจจัยลบ ซึ่งบริษัทฯเตรียมเปิดโครงการใหม่ 17 โครงการ และยังคงพัฒนาธุรกิจโรงแรมในประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง โดยได้ปรับปรุงโรงแรมให้ได้ระดับมาตรฐานโลก ประกอบกับยังคงเดินหน้าควบคุมค่าใช้จ่าย ทั้งงบโฆษณา และลดระยะเวลาการพัฒนา ด้วยการเปิดโครงการและก่อสร้างให้เร็วขึ้น"

นายธีรรัชช์ ย้ำเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตแตะ 20,000 ล้านบาท จากปีก่อน 12,905.29 ล้านบาท โดยวางเป้าหมายยอดขาย (presale) ปีนี้ไว้ราว 16,000 ล้านบาท จากปีก่อน 11,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 9,000 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียม 7,500 ล้านบาท ขณะที่ยังมีรายได้จากการขายที่ดินเปล่า อีกราว 1,000 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจเช่าโรงแรม จำนวน 2,500 ล้านบาท

ในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 17 โครงการ มูลค่ารวม 24,041 ล้านบาท ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ 12 โครงการ มูลค่า 16,841 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 7,200 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ที่ 6,015 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ 841 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3,547 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ในปีนี้ราว 4,388 ล้านบาท และที่เหลืออีก 1,627 ล้านบาทจะรับรู้ในปี 60

นอกจากนั้น ในปึนี้บริษัทจะบันทึกงบการดำเนินงานของบริษัทย่อย และ บมจ. แกรนด์ แอสเซท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) เข้ามาเต็มปี ประกอบกับ จะมีการรับรู้รายได้จากโรงแรม Kiroro Tribute Portfolio ในประเทศญี่ปุ่นเข้ามาเต็มปีเช่นกัน

นายธีรรัชช์ กล่าวว่า ปัจจัยบวกที่น่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ มองว่าจะเป็นเรื่องของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่จะสิ้นสุดในเดือเม.ย.59 ซึ่งต้องจับตาดูว่าภาครัฐจะต่ออายุมาตรการดังกล่าวหรือไม่ ถ้าขยายเวลาออกไปก็น่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัท รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้กำลังซื้อน่าจะฟื้นตัวตามไปได้ บวกกับดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ส่วนปัจจัยที่ส่งผลลบ คือ ภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง และความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์

ขณะที่บริษัทมีแผนจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่า 1,800-2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดหวังจะขายหน่วยลงทุนได้ภายในปี 59 โดยจะขายสินทรัพย์ประเภทโรงแรมภายใต้การบริหารของ GRAND เข้ากอง REIT จำนวน 1 แห่ง เพื่อเป็นเงินทุนในการพัฒนาธุรกิจ ปัจจุบัน GRAND มีโรงแรม จำนวน 3-4 แห่ง มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท

นายธีรรัชช์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีแผนปรับเพิ่มเครดิตเรทติ้ง จากเดิมเป็น BB+ เพื่อลดภาระต้นทุนดอกเบี้ย คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในอีก 1 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบันต้นทุนดอกเบี้ยมีอยู่กว่า 5% คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 3-4% ได้ ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการทำกำไร หรืออัตรากำไรสุทธิขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 10% ตามเป้าหมาย จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.80%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ