ขณะที่บริษัทตั้งเป้าหมาย Load Factor ทั้งปี 59 สูงขึ้นจากปีก่อนมาที่ 68-70% และจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 5.7-5.8 ล้านคน ซึ่งบริษัทจะมีการรับมอบเครื่องบินใหม่เข้ามาเพิ่มเติมเพื่อขยายฝูงบินเป็น 36 ลำ จาก 33 ลำ รองรับเปิดเส้นทางบินใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งอยู่ระหว่างการเจรจากับ 7-8 สายการบินเพื่อทำข้อตกลง Codeshare เพิ่มคาดว่าจะทยอยสรุปได้ทั้งหมดภายในปีนี้
ในปีนี้ BA วางงบลงทุนกว่า 2 พันล้านบาทเพื่อใช้ในการปรับปรุงสนามบินสมุย รับมอบเครื่องบินเพิ่มเติมทั้งหมด 4 ลำ และตั้งศูนย์ซ่อมอากาศบาย โดยในส่วนของศูนย์ซ่อมฯ ขนาด 8,000 ตารางเมตรที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปีนี้ มูลค่าการลงทุนราว 1 พันล้านบาท
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BA เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ (นิวไฮ) ต่อเนื่องจากปี 58 ที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 1.79 พันล้านบาท เป็นผลมาจากราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง อีกทั้งค่าใช้จ่ายไนการบริหารจัดการ (SG&A) ของบริษัทมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอีกในปีนี้ราว 10% จากการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้กำไรที่เติบโตขึ้นยังเป็นผลมาจากรายได้ของปี 59 ที่คาดว่าจะเติบโต 10-11% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.54 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการเติบโตมาจากจำนวนผู้โดยสาวในปีนี้ที่บริษัทตั้งเป้าเพิ่มเป็น 5.7-5.8 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 10-11% จากปีก่อนที่มีจำนวนผู้โดยสาร 5.1 ล้านคน และ Load Factor เพิ่มขึ้นเป็น 68-70% จากปีก่อนอยู่ที่ 67%
อีกทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับสายการบินพ่นธมิตรเพื่อทำข้อตกลงเที่ยวบินร่วม (Codeshare Agreement) กับสายการบินชั้นนำจากทั่วโลกเพิ่มอีก 7-8 สายการบิน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดภายในปีนี้ ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีสายการบิน Codeshare ทั้งหมด 20 สายการบิน
ส่วนการลงทุนในปีนี้บริษัทตั้งงบไว้กว่า 2 พันล้านบาท แบ่งเป็นการใช้ลงทุนปรับปรุงสนามบินสมุยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 60 การรับมอบเครื่องบินใหม่ในปีนี้ 6-7 ลำ แบ่งเป็น เครื่องบินแบบ ATR 72-600 จำนวน 3 ลำ และ Airbus A319 จำนวน 3-4 ลำ โดยในต้นปีที่ผ่านมารับมอบมาแล้ว 2 ลำ เหลืออีก 4 ลำ รอทยอยรับมอบภายในปีนี้ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ฝูงบินเพิ่มขึ้นเป็น 36 ลำ จากปัจจุบันอยู่ที่ 33 ลำ
บริษัทยังคงเน้นการขยายโครงข่ายเส้นทางการบินที่ตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร เพื่อให้ครอบคลุมเส้นทางการเดินทาง โดยปี 59 จะเปิดเส้นทางการบินใหม่ ได้แก่ เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน, กรุงเทพ-ดานัง (เวียดนาม), สมุย-กว่างโจว นอกจากนี้ยังเพิ่มความถี่ของเส้นทางบินที่ได้ความนิยม เช่นกรุงเทพ-พนมเปญ เพิ่มเป็น 6 เที่ยวบินต่อวัน, กรุงเทพ-เชียงใหม่ เพิ่มเป็น 8 เที่ยวบินต่อวัน, เชียงใหม่-สมุย จากวันละ 1 เที่ยวบินเพิ่มเป็นวันละ 2 เที่ยว รวมถึงสมุย-สิงคโปร์ เพิ่มเป็นวันละ 2 เที่ยวบินในช่วงไฮซีซั่น
นอกจากนี้ยังมีแผนก่อสร้างโรงซ่อมเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ พื้นที่ 8,000 ตารางเมตร คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีนี้ หลังจากล่าสุดคณะกรรมการบริหารบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) อนุมัติให้บริษัทเป็นผู้ลงทุน แต่ขณะนี้ยังรอหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งการก่อสร้างโรงซ่อมเครื่องบินจะต้องใช้เงินลงทุน 1 พันล้านบทท และใช้ระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี
สำหรับผลการดำเน้นงานในไตรมาส 1/59 บริษัทคาดว่าทั้งรายได้และกำไรจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ เนื่องเป็นช่วงไฮซีซั่น และ Load Factor ทะลุเป้าหมายที่ 68-70% มาอยู่ที่ 77% ประกอบกับจำนวนการจองตั๋วเที่ยวบินล่วงหน้า (Forward Booking) ของเดือนมี.ค.และ เม.ย.เพิ่มขึ้น 30-40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 1.1 ล้านที่นั่ง จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 700,000-800,000 ที่นั่ง
นายพุฒิพงศ์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนเดินสายโรดโชว์เพื่อนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนสถาบันต่างประเทศในเดือน เม.ย.ปีนี้ที่ฮ่องกง และมีแผนไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์และไนยุโรปในระยะต่อไป