ทั้งนี้ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในเดือนนี้ คาดว่าสหรัฐฯจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้เชื่อว่า Flow ยังคงไหลเข้ามาในเอเชีย ซึ่งก็น่าจะทำให้มีแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มแบงก์เข้ามาด้วย นอกจากนี้ยังมีความคาดหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศใหญ่ ๆ ของโลกด้วย โดยเฉพาะในเดือนมี.ค.นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ขณะที่จีนก็ได้มีการลดสัดส่วนการสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ไปแล้ว ส่วนระดับราคาน้ำมันดิบโดยรวมทรงตัวในขณะนี้ ถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งน่าจะทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานมีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นได้บ้าง
นอกจากนี้การที่ดัชนีฯสามารถขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,300 จุดได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี จากนี้ไปทิศทางของตลาดฯจึงน่าจะไปได้ค่อนข้างดี พร้อมให้แนวรับ 1,330 จุด ส่วนแนวต้าน 1,350-1,360 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 มี.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,865.08 จุด พุ่งขึ้น 348.58 จุด (+2.11%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,689.60 จุด เพิ่มขึ้น 131.65 จุด (+2.89%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,978.35 จุด เพิ่มขึ้น 46.12 จุด (+2.39%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 305.97 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.60 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 380.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 58.97 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 27.61 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 35.88 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.83 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 มี.ค.59) 1,346.95 จุด เพิ่มขึ้น 14.58 จุด (+1.09%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 193.18 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 มี.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 มี.ค.59) ปิดที่ 34.4 ดอลลาร์/
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 มี.ค.59) ที่ 6.94 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.62/63 รอติดตามรายงานตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ-สรุปภาวะเศรษฐกิจ FED คืนนี้
- นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องการสนับสนุนออกหนังสือค้ำประกัน (แบงก์การันตี) ค่าประมูลใบอนุญาต 4จี คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ แก่บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ วงเงิน 7.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งธนาคารยื่นเงื่อนไขให้แจสปรับโครงสร้างการเงินให้เหมาะสมก่อน
- "นพพร เทพสิทธา" ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) เปิดเผยว่า สภาผู้ส่งออกปรับตัวเลขประมาณการการส่งออกทางเรือจากคาดว่าจะเติบโต 2% เหลือประคองตัวเท่ากับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจโลกตกต่ำ วัดได้จากตัวเลขการส่งออกในเดือน ม.ค. มีมูลค่า 1.57 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 8.91% ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 และต่ำสุดในรอบ 50 เดือน
- "พิมพ์ชนก วอนขอพร" รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า กระทรวงได้ปรับประมาณการเงินเฟ้อปี 2559 ใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1-2% เป็นขยายตัวเหลือ 0.0-1.0% เนื่องจากสมมติฐานของปัจจัยที่มีผลต่อการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อได้เปลี่ยนแปลงไป ล่าสุดได้ปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยลงมาเหลือขยายตัว 2.8-3.8% ราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบ เดิมคาดการณ์อยู่ที่ 48-54 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปรับลดคาดการณ์เหลือ 30-40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนยังคงคาดการณ์เดิมไว้ที่ 36-38 บาท/เหรียญสหรัฐ
- แบงก์ชาติเผยสินเชื่อรวมโตลดลงเหลือ 5.3% ผลภาคธุรกิจหันออกตราสารหนี้ ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมอาหาร ส่วนสินเชื่อใหม่ยังเพิ่มขึ้นเฉพาะธุรกิจโทรคมนาคมและก่อสร้าง อีกทั้งเริ่มเห็นสินเชื่อครัวเรือนขยายตัวหลายภาคส่วนมากขึ้น ด้านมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ช่วยดันแค่อุปสงค์ แต่ผู้ประกอบการยังชะลอ
- กกร.เตรียมปรับลดเป้าหมายจีดีพีไทยปีนี้ ห่วงส่งออกเดือนมกราคมทรุดหนักสัญญาณไม่ดี แถมภาพรวมเศรษฐกิจไม่สดใส ซ้ำร้ายเจอปัญหา ภัยแล้งหนัก ด้านสภาผู้ส่งออกประเมินไตรมาสแรกส่งออกส่อติดลบ 5% รับสภาพปั๊มให้ปีนี้เป็นบวกเรื่องยาก
*หุ้นเด่นวันนี้
- BA (เคทีบี) เป้า 26 บาท คาดแนวโน้มกำไรสุทธิ Q1/59 จะกลับมาโดดเด่น เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว และได้ผลบวกจากต้นทุนน้ำมันที่ต่ำ รวมทั้งคาดว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายที่สูงเหมือน Q4/58 โดยจำนวนผู้โดยสารในช่วงเดือนม.ค. ถึง 21 ก.พ. เพิ่มขึ้นราว 13% และ Load Factor อยู่ที่ 77.5% ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 75.7% โดยคาดว่าในปีนี้ BA จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าในภูมิภาคมากขึ้นเพื่อรองรับ AEC รวมถึงจะมีการเพิ่มพันธมิตรเที่ยวบินร่วม Codeshare อีกราว 7 สายการบิน จากสิ้นปี 2558 ที่มี 20 สายการบิน ทั้งนี้ได้ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2559 ลงจากเดิมราว 10% เป็น 2,365 ล้านบาท เนื่องจากปรับสมมติฐานค่าใช้จ่ายพนักงานและภาษีจ่ายเพิ่มขึ้น แต่กำไรสุทธิดังกล่าวนับว่ายังเติบโตได้โดดเด่นราว 32% YoY
- EA (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 29 บาท กำไรสุทธิ 4Q15 ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากบริษัทมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ต่ำกว่าคาดจากปัจจัยฤดูกาล แต่มีปัจจัยบวกระยะสั้นคือการเปิดดำเนินงานโซลาร์ฟาร์ม 90MW แห่งที่สี่ในเดือนมี.ค. 2016 และโรงไฟฟ้าพลังงานลม 126MW ทางภาคใต้จะทยอยเปิดดำเนินงานตั้งแต่เดือนมี.ค. จนถึงส.ค. และจะกลายเป็นปัจจัยต่อไปที่ช่วยผลักดันการเติบโต พร้อมปรับลดประมาณการกำไร 1.4-1.6% ในปี 2016-17 ให้สอดคล้องกับกำหนดเปิดดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานลม
- CPF (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 24 บาท เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนของแนวโน้มกำไรปกติในปีนี้จากธุรกิจกุ้ง ส่วนธุรกิจอื่นๆน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ฐานกำไรของ CPF จะได้รับรายได้จากธุรกิจ CP กัมพูชาและธุรกิจไก่รัสเซียที่พึ่งซื้อในปีที่ผ่านมาเต็มปีเป็นปีแรก นอกจากนี้ CPF รายงานกำไรใน 4Q58 อยู่ที่ 1,548 ล้านบาท (-56.6% QoQ, +91.4% YoY) สูงกว่าที่คาด จากกำไรพิเศษการขายเงินลงทุนที่มากกว่าที่เราประเมินไว้ราว 400 ล้านบาท ขณะที่กำไรปกติยังเป็นไปตามที่คาดไว้
- SAWAD (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 58 บาท เสียงตอบรับที่ดีจากโรดโชว์ที่ฮ่องกง, ธุรกิจให้บริการสินเชื่อในประเทศจะผลักดันการเติบโตของผลกำไร นอกจากนี้ ผู้บริหารคาดจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงด้านการกำกับดูแล ส่วนกำไร 4Q15 สูงกว่าประมาณการ 6%
- BAY (โกลเบล็ก)เป้า consensus เฉลี่ย 32.35 บาท ผลการดำเนินงานในปี 58 เติบโตสูงมากจากฐานที่ต่างกันหลังจากควบรวมงบการเงินกับ BTMU กรุงเทพฯ ซึ่งทำให้กำไรเติบโต 32% รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 18% สินเชื่อเติบโต 28.7% และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นจาก 29% ในปี 57 เป็น 42% และทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ลดลงเหลือ 4.15% จากเดิม 4.32% ขณะที่ NPL ยังอยู่ในระดับดี %NPL เท่ากับ 2.24% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยจากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่เพิ่มเข้ามาเป็นสินเชื่อที่มีคุณภาพดี ทั้งนี้ BAY มีฐานะเงินกองทุนแข็งแกร่ง มีอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 14.3%