นอกจากนี้บริษัทยังได้ขยายการลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของโครงการโซลาร์ฟาร์ม ทำให้ล่าสุดมีใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ทั้งหมดที่ 695.80 เมกะวัตต์ ซึ่งมาจาก PPA ของเดิมจากปีที่แล้วจำนวน 501 เมกะวัตต์ และบริษัทได้ลงทุนเพิ่มในปีนี้อีก โดยล่าสุดได้เข้าลงทุนใน บริษัท อิเควเตอร์ โซลาร์ จำกัด (EQUATOR) ที่มี PPA จำนวน 75 เมกะวัตต์ รวมถึงเข้าลงทุนในบริษัท ดับเบิ้ลยู อาร์ พี อีเนอร์จีจำกัด (WRP) ที่มี PPA จำนวน 48 เมกะวัตต์
อีกทั้งช่วงเดือน ก.พ.ทีผ่านมาได้ เข้าซื้อหุ้นสามัญบริษัท โซลคิด โซล่าร์ จำกัด ที่มี PPA จำนวน 6 เมกะวัตต์ รวมถึงเข้าซื้อหุ้นสามัญใน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท นอร์ธ อีสต์ ฟิวเจอร์ อีเนอร์จี จำกัด (NEFE) และบริษัท เอส ทู พี อีเนอร์จี จำกัด (S2P) รวมเรียกว่า NEFE & S2P ซึ่งมี PPA รวม 42 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังได้เข้าลงทุนในกลุ่ม WXA 4567 ที่มี PPA จำนวน 23.8 เมกะวัตต์ด้วย
ทั้งนี้ จำนวน PPA ที่มีอยู่ในปัจจุบัน 695.8 เมกะวัตต์นี้ เป็นเพียงการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์เท่านั้น ยังไม่รวมที่บริษัทมีแผนจะขยายการลงทุนไปยังพลังงานลม และพลังงานชีวมวล เพื่อให้บริษัทสามารถทำธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างครบวงจร