สำหรับเงินลงทุนในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่ใช้ไป 5.5 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนขยายนิคมอุตสาหกรรมและซื้อที่ดิน 2 พันล้านบาท การลงทุนขยายคลังสินค้า 3 พันล้านบาท และการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภค 800-1,000 ล้านบาท การลงทุนในธุรกิจ Data Center 500 ล้านบาท
นอกจากนี้เตรียมนำบริษัทลูกที่ทำธุรกิจไฟฟ้าเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในไตรมาส 4/59 โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ที่ 2.5-3 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ภายในเดือนพ.ค.นี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างรองบไตรมาส 1/59 ออกมาก่อน และคัดเลือกที่ปรึกษาด้านการเงิน (FA)
นางสาวจรีพร ยังกล่าวถึงแผนการโรดโชว์กับนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศ บริษัทวางแผนเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง ในเดือนมี.ค.นี้ คาดจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดี โดยปัจจุบันนักลงทุนสถาบันต่างประเทศมีสัดส่วนการถือหุ้นในระดับ 15% จากปี 58 อยู่ที่ 10% หลังจากได้ขายหุ้นบิ๊กล็อตให้กับกองทุนระดับโลกไป 5.8%
อย่างไรก็ตามการเลือกนักลงทุนเข้ามาถือหุ้นในอนาคตจะเน้นเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมทุนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) เพื่อเสริมศักยภาพของทั้งสองฝ่าย ซึ่งปัจจุบันกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทถือหุ้นรวม 52%