"การเพิ่มสัดส่วนส่งออกจะทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิที่สูงขึ้น เพราะอัตรากำไรขั้นต้นจากการส่งออกเป็นตัวเลข 2 หลัก ขณะที่ขายในประเทศเป็นตัวเลขหลักเดียวถือว่าต่ำมาก โดยหวังอัตรากำไรสุทธิขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลักในปี 61 จากปัจจุบันอยู่ที่ 3% เพราะลงทุนเยอะ ส่วนปีนี้น่าจะขยับขึ้นมา 5% เพราะส่งออกเพิ่มขึ้น ต้นทุนลดลงผลพวงจากที่เราพัฒนากระบวนการผลิตตั้งแต่ปีก่อน ซื้อเครื่องจักรใหม่ต้นทุนก็ลดลง ตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นก็ดึงมาร์จิ้นให้สงขึ้น" นายแสงชัย กล่าว
สำหรับในปี 59 นี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมโต 10% จากปีก่อนที่ 3,550 ล้านบาท ในส่วนของกำไรสุทธิปีนี้เชื่อว่าจะกลับไปใกล้เคียงกับปี 57 ที่ 200 กว่าล้านบาทได้ ขณะที่ปี 58 กำไรสุทธิทำได้ 109 ล้านบาท เนื่องจากปี 58 มีการลงทุนมากทั้งการซื้อเครื่องจักรใหม่ เพิ่มบุคลากร ขยายโรงงาน
ปัจจุบันบริษัทมีออร์เดอร์ในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) 1,800 ล้านบาท รับรู้ปีนี้ทั้งหมด โดยเป็นออเดอร์ค้างมาจากปี 58 ที่ปีที่แล้วเศรษฐกิจไม่ดีลูกค้าชะลอยังไม่ส่งมอบจึงเลื่อนส่งมอบมาเป็นปีนี้แทนโดยเป็นอรเดอร์ปีก่อน 1,400 ล้านบาท และต้นปีได้เพิ่มอีก 400 ล้านบาท
"ปีนี้หวังโตในต่างประเทศ ขณะที่ในประเทศโตไม่เยอะเพราะเศรษฐกิจโดยรวมใกล้เคียงกับปี 58 ในประเทศแต่ถึงจะโตไม่มากแต่เราก็รักษาส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ในไทยไว้ได้"
นายแสงชัย กล่าวถึงแผนการรุกตลาดต่างประเทศว่า บริษัทได้มีการแต่งตั้งตัวแทนภาคพื้นยุโรปและมีสัญญาการค้าและเทคโนโลยีร่วมกัน รวมถึงการตั้งจัดตั้งบริษัทในประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้บริษัทย่อย PT INDONESIA PATKOL SERVICE เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการ Preventive Maintenance (PM) สำหรับกลุ่มเครื่องทำน้ำแข็ง ล่าสุดได้ยื่นเรื่องขอใบอนุญาต (ไลเซ่นส์) เพื่อดำเนินธุรกิจและจัดตั้งโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3-4/2559 โดยในปัจจุบันใช้สถานที่ลูกค้าประกอบสินค้าในประเทศอินโดนีเซียเพื่อผลิตตามคำสั่งซื้ออยู่แล้ว คาดว่าหากโรงงานก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นและต้นทุนลดลง จึงมั่นใจว่าปีนี้รายได้รวมจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เทียบปีก่อน
ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดสำนักงานใน 5 ประเทศ คือประเทศอินโดนีเซีย พม่า เวียดนาม มาเลเซีย และขยับขึ้นมาเป็นบริษัทจดทะเบียนทำธุรกิจเต็มรรูปแบบ ในปีนี้เราก็จะเปิดบริษัทจดทะเบียนเพิ่มอีก 2 ประเทศ คือ ในประเทศกัมพูชา ปานามา จากที่เราเข้าไปขยายธุรกิจมีสำนักงานตัวแทนอยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามแผนที่จะรุกขยายตลาดส่งออกในกลุ่มประเทศ CLMV ให้มากขึ้น
นอกจากนี้ มีการเซ็นสัญญากับตัวแทนจำหน่ายฝั่งยุโรป เพิ่มอีก 2 ราย จากปัจจุบันมีอยู่ 1 ราย เพราะเราหวังขยายตลาดยุโรปเพิ่มขึ้นโดยเพิ่มฝั่งยุโรปใต้ทั้ง 2 ราย แถวอิตาลี สเปน เริ่มส่งมอบลูกค้าตั้งแต่เดือนที่แล้ว ตลาดยุโรปมองเป็นโอกาสเพราะมีดีมานด์ คู่แข่งเข้าไปทำตลาดก่อนหลายราย ซึ่งปีที่แล้วเราเพิ่มเริ่มต้น ปีนี้ยอดขายน่าจะเพิ่มขึ้นแน่นอน
"บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาขยายการลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ โดยศึกษาทั้งในและต่างประเทศ ต่างประเทศมองที่ประเทศอินโดนีเซียเพื่อเป็นโรงงานประกอบทำครบทุกอย่าง อยู่ระหว่ายื่นขออนุญาตจัดตั้งโรงงานอยู่ คาดอีก 6 เดือนรู้ผล งบลงทุนราว 100 ล้านบาท (ไม่รวมที่ดิน) เป็นโรงงานประกอบจะไม่ใหญ่มาก จากปัจจุบันบริษัทมีโรงงานในไทย 2 แห่ง มีกำลังการผลิต 80-90% แล้ว"
สำหรับปี 58 ถึงแม้บริษัทมีกำไรสุทธิ แต่ไม่ได้ปันผล เนื่องจากใช้เงินลงทุนมาก เศรษฐกิจโลกก็ยังไม่แน่นอนอาจต้องลงทุนอีก บริษัทจึงตั้งใจจะพิจารณาจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการงวดปี 59 เพราะหวังกำไรสุทธิน่าจะกลับไปที่เดิมที่ 200 กว่าล้านบาท ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเป้าก็น่าจะสามารถพิจารณาปันผลได้
ทั้งนี้ บริษัทได้รับความไว้วางใจให้ออกแบบและติดตั้งนวัตกรรมเครื่องจักรอาหารอัตโนมัติสำหรับโรงงานนมพร้อมดื่ม ภายใต้โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปนมที่ทันสมัย เหมาะสำหรับกิจการขนาดกลาง รวมถึงโรงงานที่ตั้งอยู่พิ้นที่ห่างไกล ซึ่งระบบอัตโนมัติของ PK มีการใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติและระบบวัดคุมในการควบคุมเครื่องจักร และอุปกรณ์ทุกชิ้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการผลิต
อนึ่ง PK พัฒนา 4 ธุรกิจหลักรองรับอุตสาหกรรมอาหารและส่งออก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจเครื่องทำความเย็น บริษัทฯ ถือเป็นผู้ประกอบการไทยรายใหญ่ที่สุดในแถบภูมิภาคอาเซียน ที่ทำงานด้านวิศวกรรม ทั้งในด้านการผลิต ออกแบบ ติดตั้ง และขายอะไหล่ อุปกรณ์ ระบบแช่อาหาร ห้องเย็นอุตสาหกรรมอาหารขนาดใหญ่ ตู้แช่ผลิตภัณฑ์และห้องเย็นสาหรับซุปเปอร์มาร์เก็ต ระบบทำความเย็นเพื่อใช้ในโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา กุ้ง ผักและผลไม้ โดยมีระบบทำน้ำเย็นเพื่อลดอุณหภูมิ และระบบลมเย็นเพื่อให้ผลิตภัณฑ์สดเสมอระหว่างการแปรรูปและตัดแต่ง เริ่มตั้งแต่แช่แข็งและเก็บ เพื่อรอการส่งออกและจำหน่ายต่อไป