SPALI คาดรายได้-กำไรปีนี้นิวไฮ, เปิด 29-35 โครงการใหม่, ออกหุ้นกู้ 7-8 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 7, 2016 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่า รายได้ในปีนี้บริษัทจะทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องจากปีก่อน โดยตั้งเป้ารายได้ปี 59 อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 2.15 หมื่นล้านบาท ซึ่งปี 59 จะมีการโอนโครงการจากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 1.37 หมื่นล้านบาท จาก Backlog ที่มีอยู่ทั้งหมด 3.8 หมื่นล้านบาท อีกทั้งคาดว่ากำไรสุทธในปี 59 มีโอกาสทำสถิตสูงสุดใหม่ (New high) แม้ว่าปีก่อนกำไรจะลดลงมาอยู่ที่ 4.34 พันล้านบาท จากปี 57 ที่ 4.47 พันล้านบาท โดยปัจจัยหนุนกำไรในปีนี้มาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นที่บริษัทตั้งเป้าเพิ่มเป็น 39% จากปีก่อนที่ 38% ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิคาดว่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 20% โดยเป็นมาจากมูลค่าการโอนโครงการคอนโดมิเนียม
ศุภาลัย เวลลิงตัน ซึ่งมีมาร์จิ้นต่ำ น้อยมากในปีนี้ และการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้นในปีนี้
"กำไรปีก่อนที่ลดลงเป็นผลมาจากการโอนโครงการคอนโดศุภาลัย เวลลิงตัน ที่มีมาร์จิ้นต่ำ และค่าใช้จ่ายในการซื้อที่ดินและภาระดอกเบี้ยของเราได้ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปีก่อนลดลงค่อนข้างมาก และส่งผลต่อกำไรสุทธิในปีก่อน แต่ปีนี้ Effect จากการโอนเวลลิ่งตันลดลงไปมากแล้ว และค่าใช้จ่ายต่างๆเราก็พยายามควบคุมให้ลดลง ก็คาดว่ามีโอกาสที่กำไรจะทำนิวไฮใหม่อีกครั้ง"นายไตรเตชะ กล่าว

นายไตรเตชะ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าไตรมาส 1/59 จะทำยอดขายพรีเซลได้ 5 พันล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นราว 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลัง 2 เดือนที่ผ่านมาในปีนี้บริษัททำยอดขายพรีเซลได้แล้ว 3.13 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 2.4 พันล้านบาท และส่วนที่เหลืออีก 730 ล้านบาท เป็นยอดขายพรีเซลจากโครงการแนวสูง โดยปัจจัยที่ทำให้ยอดขายพรีเซลในไตรมาสแรกปรับตัวดีขึ้นนั้นมาจากโครงการแนวราบที่ได้รับแรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล

แต่อย่างไรก็ตามบริษัทเชื่อว่าหลังจากวันที่ 28 เม.ย. 59 ที่มาตรการดังกล่าวสิ้นสุดลง จะส่งผลให้ยอดขายของบริษัทมีโอกาสชะลอตัวลงเล็กน้อย ทั้งนี้บริษัทยังมั่นไจว่ายอดขายพรีเซลของบริษัทในปีนี้จะเป็นตามที่ตั้งไวิ 2.45 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 2.3 หมื่นล้านบาท

ส่วนงบลงทุนรวมปีนี้บริษัทตั้งไว้ที่ 2.12 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงบซื้อที่ดิน 8 พันล้านบาท ซึ่งใช้เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่ไช้ไป 7.2 พันล้านบาท และงบก่อสร้างปีนี้ตั้งไว้ 1.32 หมื่นล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่ใช้ไป 1.01 หมื่นล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนส่วนหนึ่งจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท และบริษัทจะมีการออกหุ้นกู้ในปีนี้อีก 7-8 พันล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลัง อายุ 3-3.5 ปี ซึ่งจะขายเป็นล๊อตละ 1-1.5 พันล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่จะออกมีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนหุ้นกู้ที่จทยอยครบกำหนดอายุในปีนี้มูลค่า 3-4 พันล้านบาท และที่เหลือหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อนำมาใช้เป็นทุนหมุนเวียนและการลงทุนของบริษัท

"เรามีแผนว่าจะขอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 เมษานี้ เพื่อเพิ่มวงเงินหุ้นกู้อีก 1 หมื่นล้านบาท เพื่อออกหุ้นกู้ไนปีนี้ทั้งทดแทนของเก่าที่ครบอายุและออกใหม่ ตอนนี้สภาพดอกเบี้ยในตลาดอยู่ในระดับต่ำ เฉลี่ยอยู่ที่ 2.25% ต่อปีซึ่งเป็นแนวทางที่เราสนใจมาก เพราะดอกเบี้ยจากการกู้แบงก์สูงที่ 6-7% ต่อปี ทำให้การออกหุ้นกู้ส่งผลให้เรามีต้นทุนทางการเงินที่สดลง"นายไตรเตชะ กล่าว

ด้านการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้วางแผนเปิดโครงการใหม่ 29-35 โครงการ มูลค่าโครการรวม 3.65 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 22-25 โครงการ และเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 7-10 โครงการ โดยปีนี้บริษัทยังวางแผนขยายไปในตลาดภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม จำนวน 14 โครงการ ในต่างจังหวัด แบ่งเป็น โครงการบ้านจัดสรร 13 โครการ และโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ ซึ่งไนปัจจุบันมีจังหวัดที่รุกเข้าไปพัฒนาโครงการแล้วจำนวน 10 จังหวัด ได้แก เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา ภูเก็ต อุดรธานี ข่อนแก่น ชลบุรี ระยอง อุบลราชธานี นครราชสีมา และจังหวัดใหม่ที่รุกเข้าไปในปีนี้ คือ นครศรีธรรมราช ส่งผลให้มีสัดส่วนยอดขายจากต่างจังหวัดในปีนี้เพิ่มเป็น 25% จากปีก่อน 22%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ