สำหรับแผนงานในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะมีสาขาที่เปิดให้บริการรวมกันทั้งสิ้น 32 สาขา จากปัจจุบัน LDC มี 26 สาขาแล้ว ซึ่งสาขาใหม่อีก 6 สาขา บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และคาดว่าจะสามารถทยอยเปิดให้บริการภายในกลางปีนี้ทั้งหมด
ทพ.วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ LDC เปิดเผยว่า ในปี 59 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 60% จากปีก่อนที่ 318 ล้านบาท และจะขึ้นไปแตะระดับ 1 พันล้านบาทในปี 60 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นตามการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตามแผนบริษัทฯจะมีสาขาทั่วประเทศ 40 สาขา และจะมีอัตราการเข้าใช้บริการในระดับไม่ต่ำกว่า 45% จากปีก่อนอัตราการเข้าใช้บริการเพียง 35% ส่งผลให้มีผลขาดทุน 30.62 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามปีนี้ คาดว่าผลขาดทุนจะปรับตัวลดลงและอัตรากำไรขั้นต้นจะขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 10-15% จากปีก่อนลดลงไปอยู่ที่ 1.90% โดยในปีนี้บริษัทฯจะใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านบาท โดยจะใช้กลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ Ldc ให้มีความแข็งแกร่งและเป็นที่รู้จัก รวมถึงการเพิ่มโปรโมชั่นไม่ว่าจะเป็นลดราคา รวมทั้งการผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้บริการมีความสะดวกในทุกๆด้าน และเข้าถึงการให้บริการด้านนี้เพิ่มขึ้นด้วย
"ปีนี้ผลขาดทุนของเราคงปรับลดลง แต่คงจะยังไม่ถึงขั้นกลับมามีกำไร ซึ่งปีนี้เราคงมีการทำการตลาดให้มากขึ้น เพื่อที่จะให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และให้ผู้เข้ามาใช้บริการสะดวกในทุกๆด้าน ซึ่งปีนี้เราก็มองว่ายอดการเข้าใช้บริการจะขึ้นมาอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 45% ทำให้เรามีผลขาดทุนน้อยลง และเชื่อว่าปีหน้าเราคงกลับมามีผลกำไรได้อย่างต่อเนื่องแล้ว"ทพ.วัฒนา กล่าว
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการเจรจาซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ในเร็วๆ นี้เนื่องจากต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าและผลตอบแทนในการลงทุน
ทพ.วัฒนา กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจในปีนี้มีทิศทางปรับตัวที่ดีขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากอัตราการเข้าใช้บริการในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น แม้ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศจะไม่คึกคักเท่าที่ควร แต่เชื่อว่าการรุกกิจกรรมทางการตลาดในช่วงที่ผ่านมาจะทำให้ผู้รับบริการหัน มาใส่ใจในเรื่องสุขภาพในช่องปากและฟันเพิ่มขึ้น รวมทั้งการสร้างการรับรู้และขยายฐานลูกค้าไปในหัวเมืองใหญ่ ในต่างจังหวัดและประเทศใกล้เคียง จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธุรกิจทันตกรรมปีนี้ของบริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
โดยการทยอยเปิดสาขาให้บริการภายในกลางปีนี้ทั้งหมด เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนผลงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้ของสาขาเก่าและสาขาใหม่อย่างเต็มที่ จึงมั่นใจว่าจากปัจจัยดังกล่าว จะสนับสนุนยอดขายทั้งปีให้เติบโตเพิ่มขึ้นได้ ในขณะที่กำไรบริษัทฯ ก็ยังคงให้ความสำคัญไม่น้อยกว่าการเติบโตของรายได้ แต่ทั้งนี้ การลงทุนในลักษณะของการขยายสาขาใหม่ต้องใช้เวลา โดยประมาณการว่าเมื่อมีจำนวนสาขามากถึง 40 สาขา จะก่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of scale) ซึ่งบริษัทฯ จะบริหารจัดการอย่างรอบคอบ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น