ตลท.เชื่อปีนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ หลังปีก่อนขายสุทธิ 1.5 แสนลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 7, 2016 14:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คาดว่าปีนี้ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น โดยเชื่อว่าทั้งปีจะมีตัวเลขเป็นซื้อสุทธิ จากปีก่อนต่างชาติขายสุทธิไปราว 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมียอดซื้อสุทธิเข้ามาแล้ว 5.8 พันล้านบาท โดยมองว่าเป็นผลมาจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนออกมาค่อนข้างดี โดยกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปี 58 ที่ผ่านมาติดลบเพียง 1.3% แต่อย่างไรก็ตามหากตัดผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจด้านน้ำมัน ปิโตรเคมี จะส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิเติบโต 5.95% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ดีที่สุดในอาเซียน

ทั้งนี้คาดว่าการเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จะมีมูลค่าการระดมทุนราว 2.7 แสนล้านบาท หรือมีหุ้นเข้าจดทะเบียน 30-40 บริษัท ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ 41 บริษัท โดยคาดว่าจะเป็นหุ้นกลุ่มโลจิสติกส์ อาหาร และกลุ่มธุรกิจใหม่ๆที่เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลบทุนมากขึ้นด้วย

"ในช่วง 1-4 มี.ค. มียอดเข้าซื้อสุทธิของต่างชาติถึง 1.3 หมื่นล้านบาท ก็คงเป็นผลมาจากที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี และถือว่าดีที่สุดในภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยก็ยังเป็นประเทศที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ และเลือกที่จะเข้าลงทุน เนื่องจากมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดีจะเห็นได้จากช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมาตัวเลขการส่งออกของไทยลดลงราว 9% แต่ประเทศอื่นๆ ลดลงไปถึงตัวเลข 2 หลัก ในขณะเดียวกันก็จะมีบริษัทฯใหม่ๆที่มีธุรกิจที่หน้าสนใจเข้ามาระดมทุนในตลาดเพิ่มเติม ทำให้เรามองว่าปีนี้แนวโน้มต่างชาติจะเป็นซื้อสุทธิมากกว่า"นางเกศรา กล่าว

ทั้งนี้คาดว่าการเสนอขาย IPO จะมีมูลค่าการระดมทุนราว 2.7 แสนล้านบาท หรือมีหุ้นเข้าจดทะเบียน 30-40 บริษัท ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ 41 บริษัท โดยคาดว่าจะเป็นหุ้นกลุ่มโลจิสติกส์ อาหาร และกลุ่มธุรกิจใหม่ๆที่เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลบทุนมากขึ้นด้วย

นางเกศรา กล่าวถึงดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมาว่า ในช่วงนี้ก็จะยังมีความผันผวน และมีความเสี่ยงอยู่ เนื่องจากยังมีปัจจัยหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยในประเทศ และต่างประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ อาทิ นโยบายทางการเงินของประเทศหลักๆ ที่อาจจะมีทิศทางที่แตกต่างกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความผันผวนของตลาดเงินโลกแต่อย่างไรก็ตาม หากเลือกการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ มีปัจจัยพื้นฐานดี และผลประกอบการที่ดี เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ