ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/59 ยอมรับว่าน่าจะต่ำกว่าไตรมาส 1/58 เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก ค่าเฉลี่ยของส่วนต่างราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง จึงมีผลให้ค่าการกลั่น (GRM) ลดลงตามไปด้วย
สำหรับค่าการกลั่น (GRM) ปีนี้คาดว่าจะต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ 10.4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่จะมากกว่าเมื่อเทียบกับค่าการกลั่นเฉลี่ยของอุตสาหกรรมโรงกลั่น ที่มีนักวิเคราะห์หลายฝ่ายได้ประเมินไว้ราว 5-8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดิบดูไบมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ปีก่อนส่วนต่างราคาดังกล่าวมีสูงมาก ทำให้ค่าการกลั่นของบริษัทสูงขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทถือว่ามีอัตราความพร้อมของหน่วยการผลิตที่ 99.8% และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันที่ 97.8% ปัจจุบันมีกำลังการผลิตราว 165,000 บาร์เรลต่อวัน ประกอบกับ เชื่อมั่นว่าอัตราการบาดเจ็บขั้นบันทึกของบริษัทจะเป็นศูนย์ (Zero Recordable Injury) ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินการผลิตไปอย่างไม่มีปัญหากดดัน
นอกจากนี้ แม้ว่า บมจ.ปตท.(PTT) มีการลดสัดส่วนการถือหุ้นไปจำนวนมาก โดยปัจจุบันเหลือสัดส่วนอยู่เพียง 5.4% บริษัทก็ยังมีสัญญาซื้อขายน้ำมันสำเร็จรูปกับ ปตท.อยู่ รวมถึงยังมีสัญญาจัดหาและซื้อขายผลิตภัณฑ์จากเชฟรอนและปตท.อีกด้วย ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงวัตถุดิบได้หลายช่องทาง อีกทั้ง SPRC ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดสามารถขายวัตถุดิบให้กับเครือ ปตท.และเครือปูนซีเมนต์ เพื่อสร้างผลกำไรให้สูงขึ้นได้สะดวก