บลจ.วรรณ เปิดขายกอง"โฮสพีทอล"7-17 มี.ค.คาด SET Index สิ้นปีนี้ 1,450-1,500 จุด EPS โต 7-12%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 7, 2016 15:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า บลจ.ววรณ ได้เปิดขายกองทุนเปิด วรรณ โฮสพีทอล (ONE-HOSPITAL) ระหว่างวันที่ 7-17 มี.ค.59 โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยกองทุนดังกล่าวสามารถลงทุนในตราสารหนี้ได้ตั้งแต่ 0-100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุน ทำให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในการบริหารการลงทุน สามารถกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศในกลุ่มโรงพยาบาล โดยมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนของกองทุนข้างต้น จะขึ้นอยู่กับการเติบโตของหุ้นโรงพยาบาลนั้นๆ ซึ่งจะเห็นได้รายได้ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนไทยในปีนี้ น่าจะเป็นตัวเลขที่ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท โดยเป็นการเติบโตจากตลาดคนไข้ชาวต่างชาติ ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนรายได้เพียง 25% ของรายได้โรงพยาบาลเอกชนไทยทั้งหมด

ขณะนายวิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย(SET)ขณะนี้มีการฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยคาดดัชนี SET สิ้นปี 59 อยู่ที่ 1,450-1,500 จุด และคาดการณ์ EPS (กำไรต่อหุ้น) ของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตราว 7-12% จากปีก่อนที่เติบโต 5-7% เป็นไปตามการฟื้นตวของเศรษฐกิจ ประกอบกับมีแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขณะเดียวกันมองนักลงทุนต่างชาติมีโอกาสกลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้งหลังธนาคารกลางหลายประเทศดำเนินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะญี่ปุ่นและยุโรป รวมทั้งมูลค่าหุ้นไทยยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับ TIP Market

ขณะที่ปัจจัยที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือในเรื่องของราคาน้ำมันที่ผันผวน และภาวะศรษฐกิจโลก โดยเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกอ่อนแอ ,การปรับขึ้นอัตรดอกเบี้ยของ FED ,โอกาสการปรับลด EPS และ ปัญหาภัยแล้งในประเทศไทย

"จะเห็นว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาดัชนีมีการปรับตัวขึ้นเกือบแตะระดับ 1,400 จุด ซึ่งน่าจะเกิดจาก Sentiment ที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องติดตามในเรื่องของราคาน้ำมัน ซึ่งหากยืนอยู่ระดับ 40 เหรียญ/บาร์เรล ได้ ก็น่าจะส่งผลให้ดัชนีสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อ รวมถึงการดำเนินโยบาย QE ที่จะเป็นตัวสนับสนุนดัชนีปรับขึ้นได้เช่นกัน โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่มีความเป็นได้ที่เฟดอาจไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหลายๆตัวออกมาดี" นายวิน กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทคาดการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตได้ 3-3.8% จากปีก่อน GDP อยู่ราว 2.8% โดยมีปัจจัยสนับนุนหลักมาจากการลงทุนภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนภาคเอกชนมากขึ้น และส่งผลดีต่อการบริโภคภายในประเทศที่จะฟื้นตัวดีขึ้น ที่สำคัญการส่งออกจะค่อยๆฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก และราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวตามอุปสงค์ รวมถึงภาคการท่องเที่ยว ที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติก็แนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดตัวเลขดังกล่าวในปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 32.5-34.0 ล้านคน

สำหรับหุ้นที่ บลจ.วรรณ แนะนำลงทุนในปีนี้เป็นหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่ดี มีผลตอบแทบที่สูง เช่น หุ้นกลุ่มสื่อสาร, การท่องเที่ยวและบริโภค, ธนาคารพาณิชย์, โรงพยาบาล เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ