“ภาพรวมผลการดำเนินงานของ บจ. mai ในปี 58 ยังคงเติบโตจากปีก่อนหน้า โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานทดแทนที่เริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุน มีการจำหน่ายไฟเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น แต่ยังมี บจ. บางส่วนที่อยู่ระหว่างการขยายการลงทุนทำให้ค่าเสื่อมราคาและต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น หากมองตามกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่ามี 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มทรัพยากร" นายประพันธ์กล่าว
ทั้งนี้ พบ 8 บจ. ที่มีกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง 3 ปี ตั้งแต่ปี 56-58 ได้แก่ บมจ. อัคคีปราการ (AKP) บมจ. แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW) บมจ. บางกอก เดค-คอน (BKD) บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) บมจ. อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) บมจ. แกรททิทูด อินฟินิท จำกัด (GIFT) บมจ. นิวพลัสนิตติ้ง (NPK) และ บมจ. โรงพยาบาลไทยนครินทร์ (TNH)
ปัจจุบันมี บจ. ใน mai 122 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 4 มี.ค.59) ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 495.88 จุด ลดลง 5.12 % จากต้นปี มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) อยู่ที่ 309,420 ล้านบาท อัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) อยู่ที่ 54.89 เท่า มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 1,334 ล้านบาทต่อวัน