(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับฐานหลัง Overbought แต่ Flow ยังเข้า-หวังมาตรการธ.กลาง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 8, 2016 09:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับฐาน เพื่อลดความร้อนแรงจาก 5 วันที่ผ่านมาได้ปรับขึ้นตลอดจนเข้าเขต Overbought ในทางเทคนิค แต่เชื่อว่าการปรับตัวลงของดัชนีฯคงจะไม่มาก เพราะ Flow ยังไหลเข้า

อีกทั้งธนาคารกลางของหลายประเทศยังมีความคาดหวังในเรื่องการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินด้วย ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบเล็กน้อย พร้อมให้ติดตามเรื่องของ JAS เนื่องจากมีผลต่อหุ้นในกลุ่มสื่อสาร

พร้อมให้แนวรับ 1,385 ถัดไป 1,375-1,370 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400-1,410 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (7 มี.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,073.95 จุด เพิ่มขึ้น 67.18 จุด (+0.40%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,708.25 จุด ลดลง 8.77 จุด (-0.19%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,001.76 จุด เพิ่มขึ้น 1.77 จุด (+0.09%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 21.84 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 1.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 27.62 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 3.69 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.07 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 1.52 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.89 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 มี.ค.59) 1,395.75 จุด เพิ่มขึ้น 16.22 จุด (+1.18%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 833.67 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 มี.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 มี.ค.59) ปิดที่ 37.90 ดอลลาร์/
บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.98 ดอลลาร์ หรือ 5.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 มี.ค.59) ที่ 6.52 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.45 อ่อนค่าตามภูมิภาค รอดูตัวเลขส่งออกเดือนก.พ.ของจีน
  • นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรรมการผู้จัดการบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน โดยคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 6,000 ล้านบาท ในการซื้อหุ้นคืนประมาณ 1,426,706,130 หุ้น คิดเป็น 20% ของทุนเรียกชาระแล้ว ส่วนราคาที่จะเสนอซื้อหุ้นคืนคาดว่าประมาณ 5 บาท/หุ้น แต่ราคาหุ้นที่จะซื้อยังไม่แน่นอน ต้องรอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีอนุมัติก่อน
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับประธานกรรมการค่ายรถยนต์ 4 ค่าย ที่มีสัดส่วนการส่งออก 58% ของการผลิตรถยนต์ในไทย ได้แก่ โตโยต้า อีซูซุ นิสสัน และฮอนด้า โดย ซีอีโอ 4 ค่าย ยืนยันว่าจะลงทุนในไทยต่อเนื่อง ไม่หนีไปที่อื่น และมีแผนจะขยายการลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์แห่งอนาคต ทั้งรถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้า และรถพลังงานไฮโดรเจน
  • นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.สนใจจะนำโครงการรถไฟทางคู่จำนวน 8 โครงการ มูลค่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นแผนลงทุนในปี 2560 เป็นสินทรัพย์ส่วนหนึ่งเพื่อจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ส ฟันด์) หากมีการปรับเงื่อนไข ด้วยการผ่อนปรน อนุญาตให้นำโครงการในอนาคตมาทำได้ จากที่กำหนดว่าจะต้องเป็นโครงการที่มีแหล่งรายได้ในปัจจุบัน ซึ่ง รฟท.มั่นใจว่าโครงการรถไฟทางคู่จะมีกำไร สร้างผลตอบแทนกับนักลงทุนได้ เนื่องจากการเดินทางด้วยรถไฟทางเดี่ยวใช้เวลามากเกินไป แต่รถไฟทางคู่จะลดเวลาและควบคุมเวลาการเดินทางได้ และเพิ่มขบวนเดินรถได้มากขึ้น
  • "เกศรา"เผยผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยปี 58 ติดลบ 1.3% หากไม่รวมกลุ่มพลังงานถือว่าดีกว่าปีก่อนเกือบ 6% ชี้ IPO หุ้นไทยสูงสุด 3 ปีซ้อน แนะนักลงทุนระมัดระวังในการลงทุน
  • นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังประชุมหารือร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่เข้าตรวจเยี่ยมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลังวาระพิเศษ ว่า นายสมคิดได้สั่งการให้กระทรวงการคลังไปศึกษามาตรการกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เช่น เกษตรกร รวมทั้งข้าราชการ ลูกจ้าง และผู้ใช้แรงงาน ว่าจะสามารถใส่เงินเข้าไปในระบบผ่านกลุ่มคนเหล่านี้ หรือผ่านระบบสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ได้อย่างไร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • LPN (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 14.50 บาท เชื่อราคาหุ้นปัจจุบันที่ปรับลดลงมากว่า -19% ได้สะท้อนการปรับมูลค่าลดลง (de-rating) เพราะโครงการคอนโดมิเนียมมีอัตรายอดขายชะลอตัวแล้ว โดยราคาหุ้นปัจจุบันกลับมาอยู่ในระดับราคาที่น่าสนใจอีกครั้ง โดยซื้อขายที่ PER ต่ำเพียง 6.7 เท่า ลงมาที่ระดับ -2 s.d. ของค่าเฉลี่ย PER ในอดีตและต่ำกว่า PER ที่เหมาะสมที่เราให้ไว้ที่ 7.8 เท่า อีกทั้งยังมีระดับอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงถึง 8.4% ช่วยจำกัด downside risk อีกด้วย โดยคาดว่า LPN จะมีกำไรเติบโตดีในอัตรา 18.8% ในปี 2016 จากการตั้งเป้าเปิดตัวโครงการใหม่ 10-15 โครงการ มูลค่า 1.76 หมื่นล้านบาทในปี 2016 ขณะที่ตั้งเป้า Presales อยู่ที่ 1.76 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% yoy
  • SAMART (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 24.20 บาท ปรับกำไรสุทธิปีนี้ลง 28% เหลือ 930 ล้านบาท +15% Y-Y การฟื้นตัวในปีนี้มาจาก SAMTEL, U-Trans และ OTO ที่ผลประกอบการดีขึ้น โดย SAMTEL มี backlog สูงกว่า 8 พันล้านบาท ส่วน U-Trans มีงานคุมการจราจรทางอากาศในกัมพูชา ติดตั้งดูแลสายส่งไฟฟ้าที่โตตามธุรกิจพลังงานทดแทน และมีโอกาสได้งานนำสายไฟฟ้าลงดิน ส่วน OTO ดีต่อเนื่อง แต่ SIM ที่แย่ลง กดดัน SAMART ที่พึ่งพารายได้ 42% จาก SIM ส่วนโรงไฟฟฟ้าขยะ 32MW จะเข้ามาอย่างเร็วใน 2Q18
  • S (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 7.80 บาท ประกาศรายได้รวม 4Q58 อยู่ที่ 724 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% QoQ แต่ยังคงขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 76 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 8% QoQ ถึงแม้ว่าในปี 2558 ทาง S จะยังขาดทุนสุทธิอยู่ 248 ล้านบาท จากรายได้รวมอยู่ที่ 2.15 พันล้านบาท แต่ยังเชื่อว่าปี 2559 ทาง S จะสามารถกลับขาดทุนให้เป็นกำไรได้ จากการที่ S มีศักยภาพสูงในการรับรู้รายได้ในอนาคตจากธุรกิจที่เข้าลงทุนในปีที่ผ่านมา แต่การเปิดตัวโรงการอสังหาริมทรัพย์บางโครงการมีการเลื่อนออกไปจากที่เราคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2559

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ