"การเติบโตของสินเชื่อในปีนี้น่าจะอยู่ราว 20-30% ซึ่งในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมามีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้เงินที่มีมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจและสภาพอากาศ แต่จะเห็นได้ว่ามีการใช้เงินแบบกระจายตัว อย่างไรก็ตาม เรายังไม่พบปัญหาหนี้เสีย โดยวางเป้าหมายที่จะควบคุม NPL ไม่ให้เกิน 4% ในปีนี้"นางสาวธิดา กล่าว
บริษัทตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อรวมในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 15,000-16,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ราว 11,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น สินเชื่อรถจักรยานยนต์ 18% สินเชื่อรถยนต์ 55% ที่เหลือเป็นสินเชื่อรถบรรทุก เครื่องจักรกลทางการเกษตร และที่ดิน ขณะที่บริษัทจะควบคุมระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่ให้เกิน 4% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.5% ซึ่งบริษัทฯมีการติดตามลูกหนี้อย่างใกล้ชิด และช่วยเหลือลูกหนี้เมื่อพบปัญหา
ประกอบกับฐานการเงินยังคงแข็งแกร่ง โดยปีนี้จะมีการกู้ยืมจากสถาบันทางการเงินในวงเงิน 10,000 ล้านบาท และมีแผนออกหุ้นกู้ในช่วงไตรมาส 2/59 วงเงิน 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะนำเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นขออนุมัติภายในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อ และการซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่ม โดยบริษัทมีแผนจะซื้อหนี้เสียจากธนาคารพาณิชย์เข้ามาอีก ภายใต้วงเงิน 4,000 ล้านบาท จากปีก่อนซื้อไปแล้วราว 1,200 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการทยอยซื้อตลอดทั้งปีนี้
ส่วนความคืบหน้าของการลงทุนในประเทศเวียดนาม นางสาวธิดา กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับหน่วยงานภาครัฐของเวียดนาม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 2/59 หรือไตรมาส 3/59 เน้นการปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ ซึ่งมองว่าน่าจะสร้างผลตอบแทนในระดับที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย ขณะเดียวกัน บริษัทยังเจรจาขยายธุรกิจในพม่าและกัมพูชาด้วย คาดว่าในปีนี้การลงทุนในต่างประเทศมากกว่า 1 แห่ง