ปัจจุบัน บมจ.ชีวาทัย มีทุนจดทะเบียน 750 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 750 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนที่ชำระแล้วทั้งหมด 488 ล้านบาท และเสนอขายหุ้น IPO อีก 262 ล้านหุ้น ซึ่งภายหลังที่ ก.ล.ต. อนุมัติให้เสนอขายหุ้น IPO และแบบแสดงรายการข้อมูลมีผลใช้บังคับ จะกำหนดวันเสนอขายหุ้น IPO ให้กับประชาชนทั่วไปและนำชีวาทัยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ซึ่งคาดว่าอยู่ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2559 โดย บมจ.ชีวาทัย จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
สำหรับ บมจ.ชีวาทัย เป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมที่เป็นอาคารสูง (High Rise) และอาคารไม่เกิน 8 ชั้น (Low Rise) ในกรุงเทพฯและปริมณฑล เน้นทำเลในแหล่งชุมชนที่มีศักยภาพและการคมนาคมสะดวก ทั้งถนนสายหลักหรือใกล้แนวขนส่งมวลชนระบบรางในเส้นทางปัจจุบันและอนาคต รวมถึงมองหาโอกาสพัฒนาโครงการในหัวเมืองหรือแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าในเขตนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะในเขตอีสเทิร์น ซีบอร์ด เพื่อรองรับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงพิจารณาโอกาสที่โรงงานสำเร็จรูปให้เช่าจะได้รับสิทธิประโยชน์จากเขตส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ ซึ่งช่วยเกื้อหนุนศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้เช่าพื้นที่อีกด้วย
นายชาติชาย พานิชชีวะ ประธานกรรมการ ของชีวาทัย กล่าวว่า บริษัทมี TEE Development Pte Ltd ในเครือ TEE Land Ltd. ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ เป็นพันธมิตรถือหุ้นในสัดส่วน 49% ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการก่อสร้าง การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และความเชี่ยวชาญในการทำตลาด เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันพัฒนาโครงการทั้งที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมและอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ เพื่อผลักดัน ‘ชีวาทัย’ ก้าวสู่การเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในระดับอาเซียน
ด้านนายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ ชีวาทัย กล่าวว่า บริษัทดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมากว่า 8 ปีและได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า เนื่องจากให้ความสำคัญกับคุณภาพโครงการและการกำหนดราคาให้สอดคล้องกับกำลังซื้อ โดยปัจจุบันได้วางโครงการแบรนด์ให้สอดรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลาย ได้แก่ แบรนด์ ‘ชีวาทัย’ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อระดับพรีเมียมและแบรนด์ ‘ฮอลล์มาร์ค’ เป็นคอนโดมิเนียมที่รองรับความต้องการกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
ทั้งนี้ ได้วางเป้าหมายนำชีวาทัยก้าวสู่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ของประเทศ โดยการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค สถาบันการเงินและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน พร้อมทั้งนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาใช้ขยายการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
“เราไม่ใช่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์และยังมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง โดย TEE Development Pte Ltd มีประสบการณ์พัฒนาโครงการอสังหาฯ ในประเทศสิงคโปร์มานาน จึงเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ วิสัยทัศน์ของผู้บริหารและความพร้อมด้านบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาฯ จะทำให้เราสามารถก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอสังหาฯ ได้" นายบุญ กล่าว