ทั้งนี้ การเติบโตของกำไรสุทธิจะมาจากทั้งธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ที่เพิ่มเข้ามา โดย MINT ตั้งเป้าในปี 63 จะมีโรงแรมเพิ่มเป็น 210 แห่ง จาก ณ สิ้นปี 58 อยู่ที่ 145 แห่ง และมีจำนวนร้านอาหารมากกว่า 3.1 พันสาขา จาก ณ สิ้นปี 58 มีร้านอาหารแล้วกว่า 1.8 พันสาขา
ขณะที่รายได้จากต่างประเทศจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้าจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 50% ในปี 63 จากปัจจุบันอยู่ที่ 45% ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เข้าซื้อกิจการทั้งหมดของกลุ่ม ทิโวลี โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ทั้งหมด 14 แห่งในประเทศโปรตุเกสและบราซิล
"บริษัทยังคงเน้น 3 กลยุทธ์หลักในการดำเนินงาน คือ 1. การเพิ่มมาร์จิ้นของแบรนด์ โดยเฉพาะแบรนด์ที่บริษัทฯพัฒนาเอง 2. การเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์เพื่อให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น 3. การเติบโตจากการเข้าซื้อกิจการและแผนลงทุนธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง"นายชัยพัฒน์ กล่าว
สำหรับทิศทางธุรกิจในปีนี้ นายชัยพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทอัตราการเข้าพัก (OCC) คาดว่าจะเติบโต 4-5 % จากปีก่อนที่ 68 % และราคาห้องพัก/วัน (ADR) คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 4-5 % ขณะที่อัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก(RevPAR) เติบโตใกล้เคียง 10% จากปีก่อนที่มีระดับเฉลี่ยที่ 3,964 บาท/ห้อง/คืน เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ บริษัทมีการปรับปรุงห้องพัก และทำโปรโมชั่นเพื่อเพิ่มอัตราการเข้าพักอย่างต่อเนื่อง
บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้ มูลค่า 4 พันล้านบาทในปีนี้ ชุดแรกวงเงิน 2,800 ล้านบาท อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2564 อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.27 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยๆทุกๆ 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ โดยเสนอให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ นักลงทุนรายใหญ่ ระยะเวลาจองซื้อในวันที่ 10-11, 14 มี.ค. 59 โดยมีธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทอยู่ที่ระดับ "A-" โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 58 ซึ่งบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้และใช้ในการลงทุนขยายกิจการ
นอกจากนี้ สัปดาห์หน้าบริษัทจะมีการเดินทางไปให้ข้อมูลแก่นักลงทุน(โรดโชว์)ที่ประเทศฮ่องกงร่วมกับ บล.ภัทร เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่นักลงทุนสถาบัน โดยปัจจุบันนักลงทุนสถาบันต่างชาติมีสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทรวมกัน 26% เพิ่มขึ้นมากจากช่วง 5-6 ปีก่อน อย่างไรก็ดีบริษัทมีกำหนดไปโรดโชว์ที่ฮ่ององและสิงคโปร์ไตรมาสละครั้ง ส่วนยุโรปกับสหรัฐอเมริกาจะไปปีละครั้ง