นอกจากนี้บริษัทฯตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ที่มาจากเกมบนมือถือ ในปีนี้จะขยับขึ้นเป็น 30% และเกมบน PC 70% จากเดิมที่มีสัดส่วน 10:90 ตามลำดับ เนื่องจากมองแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเล่นเกมผ่านมือถือมากขึ้น
ขณะที่บริษัทฯ มองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีความสนใจในธุรกิจดิจิตอลเพย์เม้นท์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรหลายราย แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้ ซึ่งมองว่าธุรกิจโมบายกำลังเป็นที่นิยมกับคนรุ่นใหม่ จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปมีการใช้งานหรือชำราค่าบริการต่างๆผ่านมือถือมากขึ้น ทำให้น่าจะสามารถเข้ามาต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่เดิมได้
ขณะที่คาดว่า ในปี 59 จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้จากปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 475.15 ล้านบาท จากจะมีการควบคุมค่าใช้จ่ายทุกส่วน ทั้งลดค่าใช้จ่ายของการด้อยค่าของลิขสิทธิ์เกมและอื่นๆ รวมถึงยังมีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ ซึ่งจะมีดำเนินการปิดกิจการ ขายกิจการ หรือรวมหน่วยงาน ในธุรกิจที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ จากปัจจุบันมีบริษัทย่อยอยู่ 17 บริษัท ใน 6 ประเทศ คาดว่าจะดำเนินการราว 4-5 บริษัท
"ปีนี้น่าจะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ และน่าจะเห็นได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/59 เป็นต้นไป จากการดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ และเราจะมีการเปิดตัวเกมใหม่ จากที่ผ่านมาเราชะลอการเปิดตัวทำให้มีผลขาดทุน ขณะที่แผนการล้างขาดทุนสะสม ที่มีอยู่ราว 800-900 ล้านบาท ก็ยังคงมองหาวิธีที่จะดำเนินการดังกล่าว เพื่อให้ผลการดำเนินงานโดยรวมดีขึ้น ซึ่งหากสามารถทำให้ผลการดำเนินงานกลับมาเป็นบวกได้ เราก็จะมีการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นทันที โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 30%" นายปราโมทย์ กล่าว