นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ FSMART กล่าวว่า บริษัทมองโอกาสเพิ่มบริการผ่านตู้เติมเงินบุญเติมในรูปแบบต่าง ๆ เช่นการต่อยอดบริการติมเงินค่าบริการโทรศัพท์มือถือไปสู่โปรเสริมอื่น ๆ โดยปัจจุบันทำให้กับค่าย DTAC ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี และขณะนี้ก็อยู่ระหว่างเจรจากับค่าย TRUE เพื่อเพิ่มบริการให้กับลูกค้า รวมถึงก็อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทประกันเพื่อขยายการให้บริการประกันในรูปแบบอื่นๆ ที่ยังไม่มีคู่แข่ง
ส่วนการเปิดให้บริการทำธุรกรรมโอนเงินผ่านตู้เติมเงินบุญเติม คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในเดือน เม.ย.59 หลังจากได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สามารถดำเนินการได้ โดยการโอนเงินดังกล่าวจะมียอดขั้นต่ำที่ 1 บาท และไม่เกิน 5,000 บาท คิดค่าธรรมเนียม 30 บาท/ครั้ง ถือว่ามีความน่าสนใจอย่างมาก และน่าจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ที่ตู้เอทีเอ็มยังเข้าไปไม่ถึง อีกทั้งบริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีกในช่วงไตรมาส 2-3 นี้ เป็นบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wellet)
นายสมชัย กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจในปีนี้ยังสามารถเติบโตไปได้ตามเป้าหมาย และไม่มีความกังวลต่อผู้เล่นรายใหม่ที่จะเข้ามาในตลาด เนื่องจากยังมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของรูปแบบการให้บริการ, กลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น ซึ่งยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบต่อบริษัทฯ
"เราไม่ได้กังวล แม้ว่าจะมีผู้เล่นเข้ามาเพิ่มในตลาด ซึ่งตู้เติมเงินเราถือว่ายังได้รับความนิยมอยู่ ประกอบกับการดำเนินธุรกิจของเราก็แตกต่างกับคู่แข่งมาก ทั้งรูปแบบของตู้ การให้บริการ การบริการหลังการขาย และกลุ่มลูกค้า ปัจจุบันเรามีจำนวนลูกค้าที่เติมเงินมือถือผ่านตู้ เพิ่มขึ้น 18 ล้านเบอร์ จากปีก่อนที่ 68 ล้านเบอร์ "นายสมชัย กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตราว 30% จากปีก่อนที่ 1,683.96 ล้านบาท และกำไรสุทธิก็ยังทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีก่อนทำได้ 271.74 ล้านบาท เป็นไปตามแผนการขยายตู้เติมเงินบุญเติมเพิ่มอีก 24,000 ตู้ จากสิ้นปี 58 อยู่ที่ 65,000 ตู้ ซึ่งทำให้ทั้งปีนี้จะมีตู้เติมเงินเพิ่มเป็น 90,000 ตู้ โดยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มตู้บุญเติมแล้ว 6,000 ตู้
และคาดยอดเติมเงินปีนี้น่าจะเติบโตเป็น 21,000 ล้านบาท จากปีก่อน 15,000 ล้านบาท โดยยอดเติมเงินตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ณ สิ้นเดือน ก.พ.59 เพิ่มขึ้นราว 53 ล้านบาท/วัน
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากค่าโฆษณาที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น จากปีก่อนอยู่ที่ราว 10 ล้านบาท รวมถึงรายได้จากการบริการอื่นๆ ปัจจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้มาจากการเติมเงินมือถือ 96%, การจ่ายบิล 1.7-1.8%, บัตรแคชการ์ด 1.3% และที่เหลือก็จะเป็นค่าเกมส์ รวมถึงเครื่องชั่งน้ำหนัก โดยบริษัทขยายจุดบริการชั่งน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีจุดบริการ 20,000 จุด