(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นรับสภาพคล่องเพิ่มหลัง ECB กระตุ้นศก.-น้ำมันดีดขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 14, 2016 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นไปได้ ตามแรงผลักดันด้านสภาพคล่องหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งปรับลดอัตราดอกเบี้ย และเพิ่มวงเงินตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ทำให้เชื่อว่าเม็ดเงินน่าจะไหลเข้ามา

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ได้ปรับตัวขึ้นด้วย หลังจากที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ออกมาบอกว่าราคาน้ำมันอาจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อย่างไรก็ดีให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 14-15 มี.ค.นี้ และติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ด้วย ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้า รับ Sentiment บวกจากตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดในยุโรปที่ปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

พร้อมให้แนวรับ 1,385-1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,396-1,400 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 มี.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,213.31 จุด พุ่ง 218.18 จุด (+1.28%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,748.47 จุด เพิ่มขึ้น 86.31 จุด (+1.85%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,022.19 จุด เพิ่มขึ้น 32.62 จุด (+1.64%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 216.65 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 19.77 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 171.99 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 40.34 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.33 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 20.55 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.34 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 มี.ค.59) 1,393.41 จุด เพิ่มขึ้น 14.35 จุด (+1.04%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 161.11 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 มี.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 มี.ค.59) ปิดที่ 38.5 ดอลลาร์/
บาร์เรล ดีดขึ้น 66 เซนต์ หรือ 1.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 มี.ค.59) ที่ 7.44 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.07/09 แนวโน้มแข็งค่าต่อ จับตาการประชุมเฟดสัปดาห์นี้
  • ภาคเอกชนมองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังยังคงทรงตัว รอเม็ดเงินการลงทุนภาครัฐเข้าหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ แนะปัดฝุ่นโครงการสร้างถนนสี่เลน - เร่งซ่อมบำรุง สร้างถนนคอนกรีต ใช้งบประมาณน้อย กระจายรายได้สู่แรงงานในพื้นที่ ด้านกรมทางหลวงชนบทยืนยันรัฐบาลจัดสรรงบประมาณเท่าที่มี ด้าน "คมนาคม" ยิ้มรับ ม.44 ปลดล็อก EIA ดันประมูลมอเตอร์เวย์ "บางใหญ่-กาญจนบุรีและบางปะอิน-โคราช" ฉลุยครบในปีนี้ ส่วน รถไฟทางคู่ 4 สาย และรถไฟฟ้าสีม่วงใต้ จ่อชงครม.ขออนุมัติพร้อมลุยหาผู้รับเหมา เทกระจาดประมูลงานมูลค่ารวมกว่า 1.3 แสนล้าน
  • นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง ผู้บริหารช่องพีพีทีวี เอชดี เปิดเผยว่า ภาพรวมของทีวีดิจิทัลในขณะนี้แม้ว่าจะเหลือผู้เล่นเพียง 22 ราย แต่หากมองไปที่ซัพพลาย ซึ่งมีผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลมากถึง 22 ช่อง ถือว่ายังไม่สอดคล้องกับดีมานด์ของผู้บริโภค เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงเลือกที่จะดูรายการของทีวีช่องต่างๆ ใน 10 อันดับแรกเท่านั้น
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานยอดการให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลในเดือน ม.ค. ปีนี้ ว่า มีจำนวนบัญชีผู้ใช้สินเชื่อทั้งสิ้น 12.9 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 2.4 หมื่นบัญชี หรือ 0.2% แต่มียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 3.22 แสนล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 2,543 ล้านบาท หรือ 0.8% จากการให้กู้ของธนาคารพาณิชย์และนันแบงก์ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน แต่หากเทียบการใช้สินเชื่อส่วนบุคคลกับระยะเดียวกันปีก่อน จะเห็นว่ายังปรับขึ้นแต่เพิ่มไม่มากนัก โดยจำนวนบัญชีผู้ใช้เพิ่มขึ้น 1.06 ล้านบัญชี หรือ 9% และยอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้น 1.04 หมื่นล้านบาท หรือ 3.3%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CPF (ยูโอบี เคย์เฮียน) ราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและจะกลับมาดีขึ้นในปี 59 เพราะ (1) ราคาเนื้อหมูและไก่ฟื้นตัว (2) ราคากากถั่วเหลืองซึ่งเป็นต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลง (3) ปัญหา EMS ในกุ้งคลี่คลายไปเยอะแล้วในไตรมาส 4 ที่ผ่านมาและต้นทุนธุรกิจกุ้งลดลงจากการลดขนาดโรงงานแปรรูปกุ้ง ธุรกิจนี้จึงมีแนวโน้มกลับมาเป็นกำไรปีนี้หลังจากขาดทุนไปเยอะเมื่อปีก่อน
  • KTC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 110 บาท Road Show ญี่ปุ่นตอบรับดีมาก โดย KTC มีสัดส่วนสินเชื่อต่อหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (LLR/NPL Ratio) สูงถึง 400% สูงสุดในอุตสาหกรรม, เป็นหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4-5% และมีแผนการตลาดในเชิงรุกจะทำให้ KTC มี market share เพิ่มขึ้นเป็น 8-10% ในปีนี้จาก 6.6%ในปี 2015
  • VTE (โกลเบล็ก) รุกธุรกิจพลังงานทดแทนหลังจากงานรับเหมามีข้อจำกัดด้านการเติบโตรวมถึงการทำกำไรไม่สม่ำเสมอ โดยคาดว่าบริษัทจะไม่ลงทุนเพิ่มในธุรกิจถ่านหินและจะทำการขายเหมืองถ่านหินออกซึ่งขณะนี้กำลังทำ MOU และหากขายสำเร็จคาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสม 100 ล้านบาทได้, ปัจจุบันบริษัทมีการดำเนินโรงงานไฟฟ้าโซล่าที่ Kagoshima ที่ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 1.17 MW ซึ่งได้ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วและมีแผนที่จะทำเพิ่ม 37.4 MW ทางประเทศพม่าโรงไฟฟ้าโซล่าขนาด 220 MW อยู่ในช่วงดำเนินการก่อสร้างซึ่งทางบริษัทถือหุ้น 12% โดยไม่มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนรัฐบาลเพราะบริษัทสามารถเซ็นสัญญาได้ก่อนที่จะมีการเรียกเข้าไปคุยรายละเอียดใหม่วันที่ 27 มี.ค.นี้ โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าได้ราวปี 61 ทั้งนี้บริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ในช่วง 4-6%
  • HANA (ฟินันเซีย) "ซื้อ"เพิ่มเป้าเป็น 41 บาท จากการปรับกำไรปกติปีนี้ขึ้น 18% เป็นโต 11% Y-Y โตน้อยสุดในกลุ่ม กำไรที่โตมาจาก gross margin ดีขึ้นจากการปรับ product mix ส่วนองค์กรแรงงานที่เรียกร้องขึ้นค่าแรง 20% ใน 5 อุตสาหกรรมซึ่งมีกลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อเป็นไปได้ยาก แต่หากใช้จริง กระทบพื้นฐาน 4 บาทเหลือ 37 บาท แต่ HANA มี PE ต่ำสุดในกลุ่มเพียง 11 เท่า Dividend yield สูงสุด 6%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ