CHOW เตรียมขอผถห.ไฟเขียวขาย IPO"เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่"หนุนขยายผลิตไฟเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 14, 2016 13:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ (CHOW) กล่าวว่า ความคืบหน้าการนำบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (CE) ซึ่งเป็นย่อย เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หรือ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) นั้น บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติกระจายหุ้น CE ให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ตามที่ได้แจ้งสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยจะขออนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 570 ล้านบาท เป็น 760 ล้านบาท ด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 380 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

โดยเตรียมจัดสรรหุ้นจำนวน 95 ล้านหุ้น ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Rights) และจัดสรรหุ้นจำนวน 285 ล้านหุ้น และหุ้นที่เหลือจากการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว จะส่งผลให้บริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นสามัญของ CE ภายหลังเข้าตลาดหุ้นลดลงจาก 90.93% เหลือ 68.20% ของทุนชำระแล้ว จำนวน 760 ล้านบาท หรือสัดส่วนการถือหุ้นลดลงร้อยละ 25.00

“การส่ง CE เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนฯ ก็เพื่อประโยชน์ของ CHOW ที่ไม่ต้องมาแบกรับภาระของ CE โดยเฉพาะเรื่องการให้ความช่วยเหลือทางการเงินต่างๆ แก่ CE เช่น การเพิ่มทุนใน CE ของบริษัทฯ การค้ำประกัน การจัดหาแหล่งเงินกู้ การให้เงินกู้ยืม เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันนี้หากไม่มีภาระของ CE จะถือได้ว่า CHOW เป็นบริษัทฯ ที่ปลอดหนี้ ไม่มีหนี้ระยะยาวแล้ว มีเพียงหนี้ระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งจะสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงยิ่งขึ้น นอกจากนั้น จะทำให้บริษัทสามารถรับรู้มูลค่ากิจการของ CE ตามราคายุติธรรม และรับรู้ผลกำไรที่เกิดขึ้นในกรณีที่บริษัทจำหน่ายเงินลงทุนใน CE ด้วย"นายอนาวิล กล่าว

นายอนาวิล กล่าวว่า ขณะที่ CE จะได้รับประโยชน์โดยจะเพิ่มช่องทางในการระดมทุนให้กับ CE ทำให้มีเงินทุนที่เพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจ การลงทุนเพิ่มในบริษัทย่อย หรือบริษัทร่วมใดๆ หรือเพื่อใช้ในการชำระคืนเงินกู้ยืมของ CE หรือสำหรับสำรองไว้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของ CE ซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่ง และส่งเสริมภาพลักษณ์ให้แก่ CE รวมทั้ง เพิ่มมูลค่าและสภาพคล่องให้แก่หุ้นสามัญของ CE ด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทั้งสองบริษัทอย่างแท้จริง

สำหรับ บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ปัจจุบันเป็นบริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจพลังงาน ในเครือของ CHOW ดำเนินธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น โดยปัจจุบัน CE ถือหุ้น 100% ในบริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด (PSCL) ซึ่งประกอบธุรกิจจัดหาสัญญาซื้อขายไฟฟ้า สัญญาเช่าหรือซื้อที่ดิน และซื้อขายโครงการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้ง รับบริหารจัดการด้านการออกแบบ จัดหาอุปกรณ์ และจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้าง (EPCM) และบริษัท เชาว์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (CI) ผู้ประกอบธุรกิจลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งปัจจุบัน CI มีการลงทุนในโครงการที่พัฒนาโดย PSCL และ/หรือ บริษัทย่อยของ PSCL เท่านั้น

โดยในปี 2558 บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด มีรายได้รวม 1,062.26 ล้านบาท จากรายได้ 1,033.02 ในปี 2557 มีค่าใช้จ่ายรวม 93.18 ล้านบาท จาก 125.07 ในปี 2557 และมีกำไรสุทธิ 29.24 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 31.89 ล้านบาทในปี 2557 ซึ่งเป็นปีที่ลงทุนโดยยังไม่มีการรับรู้รายได้ และเริ่มรับรู้รายได้เป็นครั้งแรกในปลายปี 2558

“รายได้ในปี 58 มีรายได้การบริหารโครงการก่อสร้างประมาณ ประมาณ 50 เมกะวัตต์ หรือประมาณ 350 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการขายไฟซึ่งยังน้อยมาก เมื่อเทียบกับโครงการที่ได้ลงทุนไว้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นปีแรกที่เราเริ่มรับรู้รายได้จากการขายไฟให้กับการไฟฟ้าญี่ปุ่น เพราะโครงการโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเชื่อมสายส่งเพื่อจ่ายไฟในเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงปลายปี 2558 โดย ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 4/2558 โรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นได้เชื่อมต่อสายส่งเพื่อรอขายไฟจำนวน 23 เมกะวัตต์ และสามารถขายไฟเชิงพาณิชย์จำนวน 9.08 เมกะวัตต์ จึงทำให้การรับรู้รายได้ในปี 2558 เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 โครงการโรงไฟฟ้าที่เชื่อมต่อสายส่งทั้ง 23 เมกะวัตต์จะรับรู้รายได้เต็มปี และจะมีโครงการอื่นๆเชื่อมต่อสายส่งเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าในปี 2559 “เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่" จะขายไฟเชิงพาณิชย์ได้ถึง 80 เมกะวัตต์" นายอนาวิล กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ