บริษัท เจตาแบค จำกัด(มหาชน) หรือ GTB เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำ(Steam Boiler) ระบบเผาไหม้(Combustion System) งานวิศวกรรมพลังงานความร้อน(Thermal Energy Engineering)อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และงานบริการเกี่ยวกับเครื่องกำเนิดไอน้ำ
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจท์เม้นท์ จำกัด (APM) กล่าวว่า การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(IPO)ของ GTB จำนวน 240 ล้านหุ้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานของธุรกิจที่แข็งแกร่งและเป็นผู้นำด้านเครื่องกำเนิดไอน้ำในประเทศไทย ที่มีโอกาสเติบโตตามทุกอุตสาหกรรม และส่งจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม เมียนมาร์ กัมพูชา ลาว ปากีสถาน บังคลาเทศ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังผลิตเครื่องกำเนิดไอน้ำให้กับบริษัทผู้ผลิตเครื่องกำเนิดไอน้ำที่มีชื่อเสียงในประเทศเยอรมนี เบลเยียม และญี่ปุ่น ในแบบ OEM และเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำรวมถึงอุปกรณ์ประกอบต่างๆ จากบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีศักยภาพและความโดดเด่นในตัวผลิตภัณฑ์นั้นๆอีกด้วย โดยปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 500 รายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
“GTB ถือเป็นหุ้นตัวแรกของปี 59 ที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอไอ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นจึงต้องหารือกันเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ GTB ต้องการ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของอุตสาหกรรม และภาวะตลาดโดยรวมในขณะนี้ รวมถึงการดำเนินงานของบริษัทที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องมีส่วนต่างให้นักลงทุนสามารถลงทุนไปด้วย ดังนั้น มั่นใจได้ว่าราคาที่เสนอขายเป็นราคาที่เหมาะสมกับการลงทุน"นายสมศักดิ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 58 บริษัทมีรายได้รวม 948.30 ล้านบาท กำไร 68.90 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้ในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20% โดยใน 3-5 ปีบริษัทมีแผนจะขยายสัดส่วนรายได้เป็น 70 : 30 ด้วยการขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในแถบอาเซียน(AEC) อาทิ ประเทศเมียนมาร์ ประเทศกัมพูชา สปป.ลาว ประเทศมาเลเซีย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงประเทศปากีสถาน และประเทศบังคลาเทศที่บริษัทได้วางแผนขยาย หลังจากขยายกำลังการผลิตให้มากขึ้น รวมถึงจะพัฒนาการให้บริการ และซ่อมบำรุง เนื่องจากในส่วนนี้มีรายได้ในระดับที่ดีและสม่ำเสมอทุกเดือน
ด้านนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio:P/E) ดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 16.43 เท่า คำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนลด (Discount) ร้อยละ 42.40 จากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิเฉลี่ย 3 เดือนของหมวดสินค้าอุตสาหกรรมในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในวันเปิดจองซื้อ เนื่องจากเห็นถึงความต้องการของนักลงทุนในช่วงนำเสนอข้อมูลหลักทรัพย์(โรดโชว์) 10 จังหวัดทั่วประเทศ และการโรดโชว์ตามห้องค้าต่างๆ ที่เข้าใจธุรกิจของบริษัท และเห็นโอกาสการเติบโตทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต รวมถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่มุ่งมั่นพัฒนาสินค้ามากกว่า 32 ปีให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้อย่างแข็งแกร่ง ยิ่งทำให้นักลงทุนมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัท
ด้านนายสุชาติ มงคลอารีย์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GTB กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการขยายพื้นที่การผลิตและเพิ่มกำลังการผลิตโรงงานจังหวัดระยอง และโรงงานอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรม วิจัยและพัฒนาระบบเผาไหม้ และพัฒนาโปรแกรมคำนวณ การออกแบบทางวิศวกรรม รวมถึงจัดตั้งหน่วยงานวิศวกรรมออกแบบ ตลอดจนการเปิดสำนักงานขายและบริการในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ และสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯอย่างต่อเนื่องในอนาคต
“การระดมทุนจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจของ GTB มีการขยายตัวได้ในระยะเวลาที่สั้นลง และเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเงินที่ได้บริษัทจะนำมาขยายกำลังการผลิตโรงงานที่จ.ระยอง และบางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โดยทุกอุตสาหกรรมเริ่มส่งสัญญาณการขยายตัวให้เห็นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ(Backlog) ราว 500 ล้านบาทที่ทยอยรับรู้รายได้ และยังมีคำสั่งผลิตสินค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่เข้ามาต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นเรื่องคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล รวมถึงการบริการระดับพรีเมียม นอกเหนือจากการพัฒนาบุคลากรด้วยศูนย์ฝึกอบรมที่จะจัดตั้งขึ้น เชื่อว่าหากบริษัทดำเนินงานได้ตามแผนจะผลักดันผลการดำเนินงานทุกๆด้านของบริษัทเติบโตอย่างชัดเจน"นายสุชาติ กล่าว