นอกจากนี้ บริษัทยังหันมารุกตลาดส่งออกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกน้ำมันพืชไปยังประเทศกลุ่ม CLMV ที่ในปีนี้ตั้งเป้ามีปริมาณการขายเติบโต 3 เท่า และทำให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศมาอยู่ที่ 3% และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 6% ในปี 60
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 13% จากปีก่อนที่ 11.9% เนื่องจากแนวโน้มของส่วนต่างราคาขายกากถั่วเหลืองกับเมล็ดถั่วเหลืองเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากราคาเมล็ดถั่วเหลืองในบราซิลถูกลง หลังค่าเงินของบราซิอลอ่อนค่า ขณะที่ราคาขายกากถั่วเหลืองยังอยู่ในระดับทรงตัว แต่ทำให้ส่วนต่างเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อมาร์จิ้นของบริษัทที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่วนอัตรากำไรสุทธิในปีนี้นั้นคาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 58 ที่ 7%
“ถ้าดูจากตัวกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้เทียบกับปีก่อน ประเมินว่ากำไรจากการดำเนินงานในปีนี้มีโอกาสโตได้ 5-6% ถ้าตัดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนออกไป แต่ถ้าเรานำอัตราแลกเปลี่ยนมาคิดนั้นก็ยังไม่แน่ใจว่าจะดีมากกว่าปีก่อนหรือทรงตัวจากปีก่อนหรือไม่ เพราะอัตราแลกเปลี่ยนในตอนนี้ยังมีความผันผวนอยู่"นายวิทูร กล่าว
ด้านการลงทุนขยายกำลังการผลิตนั้นบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและรอดูจังหวะในการลงทุนหากการใช้กำลังการผลิตถึง 90% ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 80% หรือ 6,000 ตัน/วัน ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่เป็นไปตามความต้องการของลูกค้า แต่มองแนวโน้มการใช้กำลังการผลิตในปี 60 มีโอกาสขึ้นไปเป็น 90% ซึ่งทำให้บริษัทอาจจะต้องตัดสินใจลงทุนขยายกำลังการผลิตในปีหน้าได้