(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้พักตัว คาดเจอแรงขายทำกำไรต่อเนื่องระหว่างรอผลประชุมเฟด

ทั้งนี้ ตลาดฯน่าจะโฟกัสไปที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีขึ้นในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้มากกว่า เนื่องจากการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังไม่มีอะไรออกมา แต่ก็ต้องรอดูวันนี้ด้วย ส่วนเฟดทางตลาดก็คิดว่าไม่น่าจะทำอะไร เพราะตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯก็ดีขึ้นเรื่อยๆ และตัวเลขเงินเฟ้อก็สอดคล้องไปกับราคาน้ำมันอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีให้โฟกัสไปที่ความคิดเห็นของประธานเฟด โดยรอดูว่าจะมีสัญญาณเป็นอย่างไร ถ้าไม่มีอะไรการปรับขึ้นของดัชนีฯน่าจะมีจำกัด

ดังนั้น วันนี้จึงมองตลาดฯมีทิศทางขาลงมากกว่าหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400-1,410 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (14 มี.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,229.13 จุด เพิ่มขึ้น 15.82 จุด (+0.09%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,750.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.81 จุด (+0.04%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,019.64 จุด ลดลง 2.55 จุด (-0.13%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 13.86 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 5.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 137.19 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 2.33 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.34 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.86 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 4.70 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (14 มี.ค.59) 1,394.27 จุด เพิ่มขึ้น 0.86 จุด (+0.06%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,106.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 มี.ค.59
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (14 มี.ค.59) ปิดที่ 37.18 ดอลลาร์/

• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (14 มี.ค.59) ที่ 7.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 35.12/13 กลับมาอ่อนค่า นักลงทุนชะลอดูการประชุม BOJ วันนี้
• คจร.ประชุมวันนี้ (15 มี.ค.) เคาะรถไฟฟ้าสายใหม่ บรรจุในแผนแม่บทระยะ 2 กทม.ชงลงทุน 4 สาย สายบางนา-สุวรรณภูมิ, สีเทา, สีทอง และสายบางหว้า-ตลิ่งชัน ส่วนรฟม.ขอต่อสายสีม่วงใต้อีก 5 กิโลเมตร และร่างเอ็มโอยู โอนเดินรถสายสีเขียวเหนือและใต้ให้กทม.
• นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษเรื่อง "เศรษฐกิจฐานรากกับการพัฒนาเกษตรกรรมสู่ความมั่นคง มั่งคั่งยั่งยืน" ว่า ข้อมูลในขณะนี้บ่งชี้ได้ว่าเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะไม่ดีไปอีก 1-2 ปี เพราะว่าจีนเป็นตลาดที่เป็นที่พึ่งของประเทศผู้ส่งออกมีการส่งออกติดลบ 25% ขณะที่ญี่ปุ่นเองก็ไม่ดี ดอกเบี้ยติดลบ ผู้ฝากจะต้องจ่ายเงินให้กับธนาคาร ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปได้ประกาศดอกเบี้ยอ้างอิง 0% ธนาคารพาณิชย์ที่จะฝากเงินกับธนาคารกลางยุโรปจะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ 0.4% เป็นการผลักเงินฝากออกไปสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
• "ธีรัชย์ อัตนวานิช" รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ม.ค. 2559 มีจำนวน 5.98 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 44.06% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหนี้สาธารณะลดลง 2.43 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็น หนี้ของรัฐบาล 4.38 ล้านล้านบาท ลดลง 2.28 หมื่นล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.04 ล้านล้านบาท ลดลง 431 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 5.31 แสนล้านบาท ลดลง 1,137 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 1.74 หมื่นล้านบาท ลดลง 5 ล้านบาท
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) เดือน ก.พ. 2559 ยังคงลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองมาที่ 44.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จาก 45 ในเดือน ม.ค. โดยครัวเรือนส่วนใหญ่มีมุมมองในด้านลบมากขึ้นต่อภาวะตึงตัวระหว่างสภาพคล่องในกระเป๋ากับภาระหนี้สินและค่าใช้จ่าย
• กสทช.แจกใบอนุญาต 4จี ให้ทรูแล้ว ส่งผลเวลา 24.00 น. 15 มีนาคม ลูกค้าเอไอเอสในระบบ 2จี ซิมดับทันที ตั้งวอร์รูมส่องการโรมมิ่งกับดีแทคมีปัญหาใช้งานหรือไม่ ปัดข้อเสนอเอไอเอส ขอใช้คลื่นแจสทำโอทีเอ

*หุ้นเด่นวันนี้

• SENA (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 3.80 บาท คาดกำไรสุทธิปี 2559 จะกลับมาเติบโตได้โดดเด่นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 492 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94% YoY จาก 1.) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะมีรายได้เติบโตแข็งแกร่งถึง 48% YoY และ 2.) ธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม ขนาด 46.5 เมกกะวัตต์ (SENA ถือหุ้นในโครงการนี้ 51%) เริ่ม COD ไปตั้งแต่ปลายปี 2558 ทำให้ในปี 2559 จะรับรู้รายได้เต็มปี คาด SENA จะมีส่วนแบ่งกำไรจากโครงการนี้ปีละ 45 ล้านบาท นอกจากนั้น ในปี 2559 คาดว่ากำไรสุทธิในงวด 2Q59 จะมีโอกาสทำสถิติกำไรรายไตรมาสสูงสุดใหม่ เนื่องจากคาดว่าจะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมเข้ามาค่อนข้างมาก ด้านราคาหุ้นปัจจุบันยังค่อนข้างถูก และคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงราว 7% ต่อปี
• EPG (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 16.75 บาท ปัจจัยหลักที่หนุนผลการดำเนินงาน Q4 (ม.ค.-มี.ค.59) มาจากการเติบโตขึ้นของยอดขาย เนื่องจากยังเป็น High Season ของธุรกิจ พร้อมประเมินกำไรปกติที่ระดับ 430 ล้านบาท เติบโต 140% yoy โดยยังคงคาดหมายการเติบโตเฉลี่ยของกำไรสุทธิในช่วง 5 ปีข้างหน้าสูงถึงระดับ 36.5% ต่อปี เนื่องจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จะทยอยออกสู่ตลาดจะเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงกว่าระดับปัจจุบันมาก
• BIG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.50 บาท แนวโน้มกำไร 1Q59 อาจดีกว่าที่คาดไว้เดิม เพราะเพียงครึ่งไตรมาสทำได้แล้วเกือบเท่า 1Q58 ที่ราว 70 ลบ. จากการรุกตลาดกล้อง Mirrorless ระดับบนที่ผู้ผลิตทุกค่ายทยอยออกรุ่นใหม่มาตั้งแต่ต้นปี นอกจากนี้ยังมี Loss carry forward ที่ยังใช้ได้อีกราว 30 ลบ. จึงเป็นไปได้ที่กำไร 1Q59 จะโตในระดับ 100% Y-Y มาที่ 140-150 ล้านบาท ส่วนนโยบายจ่ายปันผลจะปรับเพิ่มเป็น 2 ครั้งต่อปี โดยคาดงวดละ 0.04 บาท/หุ้น เพิ่มจากทั้งปี 2015 ที่จ่าย 0.06 บาท/หุ้น (XD 9 พ.ค.)