"แผนการตลาดในปีนี้สำหรับลูกค้าใหม่ เรายังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เพิ่มการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมาย และเจาะตลาดกลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะจะรุกในด้านออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากช่องทางดังกล่างมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพื่อให้สมาชิกสามารถติดต่อและเข้าถึงเคทีซีได้ง่ายและสะดวก และมีการออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นการใช้สอยผ่านบัตร ที่คาดว่าปีนี้จะมีการเติบโต 15% หรือมีมูลค่า 21,100 ล้านบาท"นางสาวสุดาพร จันทร์วัฒนากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล ของ KTC กล่าว
นางสาวสุดาพร กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีสมาชิกบัตรเคทีซีอยู่ที่ 7.47 แสนบัญชี และน่าจะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากเชื่อว่าตลาดสินเชื่อยังมีการเติบโตได้อีก ประกอบกับเคทีซียังคงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อพร้อมใช้ "เคทีซี พราว" (KTC PROUD) ซึ่งเป็นสินเชื่อเงินสดหมุนเวียนที่มีความคล่องตัว และได้รับการตอบรับที่ดีจากสมาชิก โดยการขยายฐานสมาชิกปีนี้ จะเน้นการหากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่มีความต้องการใช้เงินสด อีกทั้งยังเพิ่มการรับรู้ในส่วนของคุณสมบัติบริการแบ่งชำระสินค้า รวมถึงการเบิกถอนเงินสดที่สามารถตอบสอนงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น ประกอบกับจะพัฒนาช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น จากมีแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดด
นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 2/59 บริษัทได้จัดแคมเปญใหญ่ "Super Save 70%" มอบส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 70% สองรอบบัญชีแรกนับจากวันอนุมัติ ให้กับสมาชิกใหม่ในเชิงลึกที่สมัครสินเชื่อพร้อมใช้ "เคทีซี พราว" และยังได้จัดแคมเปญการตลาดครั้งใหญ่ เพื่อกระตุ้นการใช้สินเชื่อพร้อมใช้ ภายใต้แคมเปญ "แจกไม่ยั้ง กองทัพ iPhone 6S" เพื่อมอบให้กับสมาชิก โดยวางงบการตลาดดังกล่าวไว้ราว 60 ล้านบาท ซึ่งน่าจะส่งผลให้มียอดสมาชิกบัตรเคทีซีเพิ่มขึ้น และมียอดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตามหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับ 1-1.2% ซึ่งยังคงต่ำกว่าอุตสาหกรรมโดยรวมที่คาดจะอยู่กว่า 5% และเมื่อเทียบกับสิ้นปี 58 อ้างอิงตามข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า NPL เดือนธ.ค.58 ของสินเชื่อส่วนบุคคลอุตสาหกรรมโดยรวมอยู่ที่ 5.2% ,กลุ่มธนาคาร 5%, Non-Bank 5.3% และ KTC 1% เป็นผลมาจากบริษัทมีการคัดกรองลูกค้า โดยจะอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าที่มีความสามารถในการชำระ ซึ่งที่ผ่านมาสมาชิกบัตรส่วนใหญ่ที่ได้รับการอนุมัติจะมีเงินเดือนอยู่ที่ 20,000 บาท และมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรราว 10,000 บาทต่อเดือน
นางสาวสุดาพร กล่าวว่า กำลังซื้อภาคประชาชนในปีนี้ยังอยู่ในทิศทางที่ดี แต่ยังต้องจับตามองนโยบายภาครัฐ ที่จะเข้ามาสนับสนุนการใช้จ่าย รวมถึงสถานการณ์ภัยแล้ง ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน แม้จะอยุ่ในระดับที่สูงขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการผ่อนชำระ เนื่องจากเป็นหนี้ที่มีหลักประกัน