อีกทั้งยังสร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้าด้วยบริการแบบ One stop Service ให้บริการขนส่งสินค้าทั้งทางรถบรรทุก เครื่องบิน และ ทางเรือ พร้อมด้วยศูนย์กระจายสินค้าที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ตลอดจนการติดต่อกับกรมศุลกากร จัดการเอกสารครบทุกกระบวนการและทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดโครงการหนึ่งของเอสซีจี และถือเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ลงทุนเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) โดยมีบริษัทจัดการไอทีชั้นนำร่วมพัฒนาโครงการนี้กว่า 10 ราย มีกำหนดแล้วเสร็จปลายปี 59 และจะเริ่มใช้จริงต้นปี 60
"เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อสนับสนุนศักยภาพการแข่งขันให้กับลูกค้าด้วยการพัฒนาโซลูชั่นด้านการนำเข้า-ส่งออกของไทยให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความผิดพลาด รวมทั้งลดความเสี่ยงต่างๆ จากการค้าระหว่างประเทศ" นายสยามรัฐ กล่าว