ทั้งนี้ ปี 59 จะใช้งบลงทุน 1.6 พันล้านบาทขยาย 2 สาขา คือ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน นครศรีธรรมราช มูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท อยู่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า จะเปิดใน 27 ก.ค.นี้ และ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลพบุรี ซึ่งเป็นโมเดลรูปแบบใหม่ที่ ROBINS เป็นเจ้าของที่ดิน มูลค่าโครงการ 1.1 พันล้านบาท เปิดได้ในวันที่ 2 ธ.ค.59 ทำให้สิ้นปี 59 มีจำนวนสาขารวม 44 สาขา
ในปี 60 จะเปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง ที่เพชรบุรี ซึ่งจะเป็นรูปแบบไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ส่วนอีก 2 แห่งยังไม่เปิดเผย ทำให้สิ้นสุดปี 60 มีสาขารวม 47 แห่ง ในปี 61-63 จะเปิดสาขาใหม่ปีละ 3 สาขา เป็นแบบไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ 2 แห่ง และเช่าพื้นที่ของบมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN) อีก 1 แห่ง ทำให้สิ้นปี 61 มีสาขา 50 แห่ง ในปี 62 มีสาขา 53 แห่ง และในปี 63 มีสาขาเพิ่มเป็น 56 แห่ง
ส่วนการปรับปรุงสาขาเดิมปีนี้ทำการปรับโฉม 4 สาขาที่โรบินสันพระราม 9, เชียงใหม่ , ราชบุรี และ จันทบุรี ด้วยงบลงทุน 25-150 บาทต่อสาขา
นอกจากนี้ ROBINS จะขยายกลุ่มสินค้าอินเตอร์แบรนด์ที่โรบินสันนำเข้า 6 แบนด์ ล่าสุดนำเข้าแบนด์ "AEROPOSTALE" ซึ่งเป็นแบนด์แฟชั่นเทรนสไตล์สปอร์ตจากอเมริกา เพื่อสร้างความหลากหลายของสินค้ามากขึ้น และสินค้าไม่เหมือนห้างสรรพสินค้าอื่น รวมทั้งเน้นขยายสินค้าเกี่ยวกับการเล่นกีฬาในฟิตเนสที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมมากขึ้น
นายอลัน กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายในช่วง 5 ปีนี้ (ปี 59-63) จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 5-7% โดยในปี 63 คาดว่ายอดขายจะเพิ่มเป็น 3.5 หมื่นล้านบาท จากปี 58 อยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันจะรักษาอัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับ 7-8% ใกล้เคียงปีก่อน
ในปีนี้คาดว่ายอดขายจะเติบโต 7% สวนทางภาพรวมธุรกิจค้าปลีกที่คาดว่าจะเติบโตราว 3-4% โดยเริ่มเห็นสัญญาณระยะสั้นเป็นบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลดำเนินการกระตุ้นทุกกลุ่ม คาดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นในไตรมาส 3/59 นอกจากนี้ ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยเติบโตได้ดี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยมากในห้างสรรพสินค้า
"ในช่วง 5 ปีนี้ เรา focus จะเปลี่ยนแปลงทั้งการดำเนินธุรกิจ สินค้าที่นำเข้ามาขายในไทย จะไม่เหมือนกับดีพาร์ทเม้นท์สโตร์อื่น เราคาคหวังว่าจากที่ Transform จะทำให้มี market share โตขึ้น โดยปัจจุบันมี market share อยู่ที่ 18% (เฉพาะธุรกิจห้างสรรพสินค้า) ที่มีคู่แข่งเดอะมอลล์ เซ็นทรัล ร้าน duty fee"นายอลัน กล่าว
ด้านกลยุทธ์การตลาดปีนี้บริษัทใช้งบ 400 ล้านบาท ออก 16 แคมเปญกระตุ้นการใช้จ่าย พร้อมรีแบนดิ้ง ปรับโฉมใหม่ผ่านคาแรกเตอร์ Line Sticker "Robin Bird" (นกโรบินส์) พร้อมรุกตลาดดิจิตอล โดยเพิ่มช่องทางช้อปออนไลน์ หรือในชื่ Click and Collect ซึ่งตั้งเป้าเป็นอันดับ 1 ของ shop online ในปี 63
ส่วนการขยายกิจการในต่างประเทศ นายอลัน กล่าวว่า ROBINS ยังคง focus ที่ประเทศเวียดนามแห่งเดียว ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 2 สาขาที่ฮานอย และโฮจิมินห์ซิตี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาการขยายสาขาเพิ่ม คาดว่าภายใน 5 ปีนี้จะเพิ่มอีก 2 สาขาในเวียดนาม โดยปีนี้จะไม่มีการขยายสาขาใหม่ ทั้งนี้ บริษัทเห็นแนวโน้มที่ดีในเวียดนาม จากประชากรที่มีมาก และมีตลาดลักษณะคล้ายไทย ปัจจุบันยอดขายในเวียดนามมีสัดส่วนต่ำกว่า 1% ของยอดขายรวม โดยเวียดนามเปิดให้บริการเป็นปีที่ 2 แล้ว
ด้านนายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สาย Property & Lifestyle Center ของ ROBINS กล่าวว่า บริษัทได้หันมาลงทุนสร้างและเป็นเจ้าของพื้นที่เองในรูปแบบไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ เพราะจะสามารถสร้างผลกำไรที่ดีกว่าเดิม เพราะสามารถเปิดพื้นที่เช่าได้ด้วย และสามารถขยายการเติบโตได้เต็มที่แทนที่จะรอเช่าพื้นที่จาก CPN ปัจจุบ้น บริษัทมีห้างในรูปแบบ ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์แล้ว 17 แห่ง โดยแต่ละสาขาใช้พื้นที่ 40-50 ไร่ และ ในแผน 5 ปีจะสร้างใหม่อีก 9 แห่ง โดยปัจจุบันบริษัทซื้อที่ดินหลายแปลงรองรับไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม การลงทุนเช่นนี้จะคืนทุนใน 6 ปี แต่ก็มีอัตราผลตอบแทน(IRR) ราว 15%ต่อปี
ปัจจุบัน ROBINS ได้แบ่งกลุ่มธุรกิจเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มห้างสรรพสินค้า กลุ่มไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ กลุ่มอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ และ กลุ่มธุรกิจในเวียดนาม