นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งผันผวน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวลงยังกดดันอยู่ ขณะที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งขยายเวลา ADVANC ให้บริการ 2G บนคลื่น 900 MHz ออกไป 30 วันถึง 14 เม.ย.59 ถือว่าเป็นปัจจัยที่เข้ามาช่วยหนุนกลุ่ม ICT ได้ จึงถือว่าปัจจัยลบและบวกถ่วงดุลกันได้บ้าง
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็อยู่ในแดนบวกเล็กน้อยไม่ได้มีนัยสำคัญ แต่ตลาดฯคงยังโฟกัสไปที่ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่าจะมีถ้อยแถลงอย่างไร
พร้อมให้กรอบการแกว่งตัวของดัชนีวันนี้ไว้ที่ 1,375-1,395 จุด แนะนำเมื่อดัชนีฯเข้าใกล้ระดับ 1,400 จุดให้ทยอยลดพอร์ต
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 มี.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,251.53 จุด เพิ่มขึ้น 22.40 จุด (+0.13%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,728.67 จุด ลดลง 21.61 จุด (-0.45%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,015.93 จุด ลดลง 3.71 จุด (-0.18%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 135.71 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 51.13 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 26.45 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.61 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.65 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.24 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 มี.ค.59) 1,382.93 จุด ลดลง 11.34 จุด (-0.81%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,602.61 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 มี.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 มี.ค.59) ปิดที่ 36.34 ดอลลาร์/
บาร์เรล ลบ 84 เซนต์ หรือ 2.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 มี.ค.59) ที่ 5.61 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.10 แข็งค่าตามภูมิภาค ตลาดรอดูสัญญาณดอกเบี้ยจาก FED
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศคงมาตรการการเงินทั้งการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ และการซื้อคืนพันธบัตรมูลค่า 80 ล้านล้านเยน โดยนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ ยืนยันว่า การใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ 0.1% ได้ผล ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงปรับตัวลดลง และกระตุ้นการใช้จ่ายภาคเอกชนและครัวเรือน
- นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีรายจ่ายลงทุนสูง 25 หน่วยงาน เพื่อเร่งรัดการก่อหนี้ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ก.พ.59 ที่กำหนดให้ต้องก่อหนี้ให้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.59 หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้ส่งคืนงบประมาณ
- ผลสำรวจผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 29 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วประเทศ 51.9% ชี้เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกปีนี้แย่ลง จีดีพีโตต่ำแค่ 0.8% กระทบธุรกิจ 57.8% รายได้ต่ำคาดเฉลี่ยสูญเงิน 28.9% หวั่นปัจจัยเสี่ยงกำลังซื้อ ภัยแล้ง การส่งออกต่ำลง กดดันต่อเนื่อง พบบางรายส่อขาดสภาพคล่อง เหลือเงินหมุนเวียนแค่ 15-30 วัน
- สบพ.เผยทั่วโลกประสบปัญหานักบินขาด แนะไทยปรับเพิ่มค่าตอบแทนป้องกันสมองไหล ด้าน"พาณิชย์"เตรียมถก"ทอท." 17 มี.ค.จี้ลดราคาอาหารกล่อง-น้ำดื่มในสนามบิน ส่วนแอร์เอเชียลุยเปิดเส้นทางบินดอนเมือง-โกชิประเทศอินเดียรองรับท่องเที่ยวโต
- นายพิชญา พิสุทธิกุล อุปนายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า เดือนนี้ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 21,500 บาทต่อบาททองคำสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค. นี้ เพราะยังเผชิญความเสี่ยงเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และหากปรับขึ้นอาจเสียเสถียรภาพทางการค้า ส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยยังน่าลงทุนในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
*หุ้นเด่นวันนี้
- THCOM (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องในปี 59 หนุนจากการรับรู้รายได้จากดาวเทียม Thaicom 7 ประกอบกับเงินบาทที่อ่อนค่าลงและการเปิดให้บริการดาวเทียม Thaicom 8 นอกจากนี้ โดยคาดว่า dividend yield ในปี 59 จะอยู่ที่ 6.2%
- ROBINS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 56 บาท มีมุมมองเป็นบวกต่อแผนการเติบโตในปี 2016 – 2020 แม้จะปรับลดการเปิดสาขาใหม่เป็นปีละ 2-3 แห่ง จากอดีตปีละ 4-5 แห่ง โดยจะหันมา Renovate สาขาเก่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับสินค้า Private Brand และ International Brand ที่มีอัตรากำไรสูงและยังมีฐานต่ำ รวมถึงได้รับการตอบรับที่ดีโดยเฉพาะในต่างจังหวัด ทำให้แนวโน้ม Same Store Sales Growth ใน 1Q16 ยังฟื้นตัวเป็นบวกต่อเนื่อง พร้อมปรับกำไรปีนี้ขึ้น 4.5% เป็นโต 19.6% Y-Y และยังเป็น Top Pick ของกลุ่มร่วมกับ HMPRO
- PT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 13.50 บาท มั่นใจต่อการฟื้นตัวของกำไรในปีนี้มากขึ้นโดยยังคาดเติบโต 21 % Y-Y โดยผู้บริหารคาดว่าจะเห็นการเติบโต Y-Y ตั้งแต่ 1Q16 จากการเร่งลงทุนด้าน IT ของภาคเอกชนที่อั้นมาตั้งแต่ 1H15 และการเปิดตลาดใหม่ในภาคเหนือรวมถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ในภาคการผลิต ราคาหุ้นมีความสัมพันธ์กับการเติบโตของกำไรรายไตรมาสแบบ Y-Y ซึ่งหมายถึง Downside ของราคาหุ้นที่จำกัด ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อที่ PE เพียง 9 เท่า ต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่ 13 เท่า
- KCE (โกลเบล็ก) เป้า 91 บาท ปี 59 คาดกำไรก้าวกระโดดเป็น 2,792 ล้านบาท +26%YoY จากการเปิดใช้โรงงานใหม่เฟส 2 ตั้งแต่ 1Q59 ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนและสามารถผลิตสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และได้ประโยชน์จาก PCB ที่ใช้ในอุตฯยานยนต์มีการเติบโตและ Demand สูง เนื่องจากเปลี่ยนมาใช้ระบบ Electronic แทนระดับ Mechanic ทั้งนี้KCE มีลูกค้าในกลุ่มยานยนต์ราว 70% ส่วนปันผล 1 บาท/หุ้น XD 30 มี.ค. 2559