โดยการรับงานดังกล่าว แบ่งเป็น สัญญารับงานในกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกแบบพิเศษจากประเทศเวียดนามและประเทศเกาหลีใต้ รวมมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท และสัญญารับงานจากกลุ่มบริหารโครงการและงานบริการ ประเภทงานโครงการบริการงานซ่อมบำรุงจากลูกค้ารายใหม่อีกจำนวนประมาณ 100 คัน ด้วยสัญญาระยะยาวอย่างน้อย 5 ปี รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
“งานที่เราเพิ่งได้รับมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะทางลูกค้าแจ้งว่ายังมีออเดอร์ต่อเนื่องรอเซ็นสัญญาอยู่อีกจำนวนมากมูลค่าไม่ต่ำกว่านี้แน่นอน"นายสุรเดช กล่าว
นายสุรเดช กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 5-10% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,158.79 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีปริมาณงานในมือแล้วประมาณ 650 ล้านบาท และอยู่ระหว่างรอลุ้นผลการประมูลงานใหม่ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายศูนย์ซ่อมบำรุงรถใหญ่เพิ่มอีกจำนวน 8 ศูนย์ เพื่อครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ให้เสร็จสิ้นภายในปี 61 โดยจะเน้นให้บริการครบวงจรแบบ one-stop service เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสร้างมาตรฐานในการบริการอย่างดีที่สุด
ส่วนความคืบหน้าโครงการพัฒนารถขนส่งเชิงพาณิชย์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าคันแรกของประเทศไทยว่า เตรียมนำมาทดลองใช้งานจริงในไตรมาส 2/59 นี้ ตามเส้นทางการขนส่งของบมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ตามที่บริษัทกับ CPALL และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) 3 ฝ่าย เมื่อไตรมาส 2/58 ที่ผ่านมา