ทั้งนี้บริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิ และอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนที่ 9.64% และ 18.69% ตามยอดขายที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับเน้นขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง โดยเตรียมที่จะเปิดให้บริการ Print Gift ในเดือน พ.ค. ใช้งบลงทุนราว 10 ล้านบาท และการเข้ารุกธุรกิจปริ๊นภาพถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งปีที่ผ่านมาทยอยเปิดคอร์นเนอร์พิมพ์ภาพไปแล้ว มั่นใจว่าภายในปี 59 จะเปิดครบทั้ง 220 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งในธุรกิจนี้มีมาร์จิ้นค่อนข้างสูงช่วยผลักดันให้ทั้งอัตรากำไรสุทธิและอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น
ขณะที่ได้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 130-150 ล้านบาท สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ เปิดสาขาเพิ่ม และเตรียมไว้สำหรับจัดงานอีเวนท์ โดยแบ่งเป็นสำหรับการขยายธุรกิจใหม่ ขยายสาขาใหม่ และปรับปรุงสาขาเดิมประมาณ 80 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นงบการตลาด
"ปีนี้รายได้กำไรของเราคงทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีก่อน หลังยอดขายมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นสินค้า lifestyle ที่ยังมีความต้องการของตลาด และในตลาดนี้ก็ยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้วย ในขณะเดียวกันก็ได้ขยายไลน์ธุรกิจเพิ่ม ช่วยเพิ่มมาร์จิ้นให้มากขึ้นด้วย"นายธนสิทธิ์ กล่าว
นายธนสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/59 ทั้งในส่วนรายได้ และกำไรสุทธิ มั่นใจว่าจะดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีผลประกอบการเติบโตได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ แต่อย่างไรก็ตามผลประกอบการจะไม่ดีกว่าไตรมาส 4/58 เนื่องจากช่วงไตรมาสสุดท้ายของทุกปีจะเป็นช่วงที่มียอดขายที่ดีที่สุด