ก.ล.ต.ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่านายชัย ขณะเกิดเหตุดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และประธานคณะผู้บริหารของ BKI เสนอให้มีการจ่ายหุ้นปันผลให้กับผู้ถือหุ้น BKI ในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นปันผล เพิ่มเติมจากการจ่ายเงินปันผลตามปกติของ BKI จากผลการดำเนินงานประจำปี 2556 ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญและจะมีผลด้านบวกต่อราคาหุ้น BKI โดยนายชัยเปิดเผยข้อมูลนี้ให้แก่บุคคลอื่นทราบ และบุคคลอื่นดังกล่าวได้ซื้อหุ้น BKI ในวันที่ 24-25 ก.พ.57 ก่อนที่ข้อมูลดังกล่าวจะถูกเปิดเผยต่อบุคคลทั่วไปในวันที่ 28 ก.พ.57 จึงเป็นการเอาเปรียบบุคคลภายนอก การกระทำของนายชัยจึงเป็นความผิดตามมาตรา 241 ต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
นายชัยได้รับการลงโทษทางอาญาโดยการถูกปรับ แต่เนื่องจากมูลค่าผลประโยชน์ที่นายชัยได้รับเมื่อนำมาพิจารณากำหนดเป็นค่าปรับแล้วมีมูลค่าไม่สูง และยังต่ำกว่ามูลค่าเปรียบเทียบปรับขั้นต่ำ ดังนั้น คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับในจำนวนขั้นต่ำเป็นเงิน 500,000 บาท
นอกจากนี้ นายชัยยังเป็นกรรมการของ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) ซึ่งได้รับใบอนุญาตนายหน้าค้า หรือจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน (LBDU) ซึ่งเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน การกระทำข้างต้นถือเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน* นายชัยจึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการ ของ BLA ได้เป็นเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ 17 มีนาคม 2559 และไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรในตลาดทุน ทั้งผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อื่นได้ในช่วงเวลาเดียวกัน
*ข้อ 4 และข้อ 31 (2) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 8/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557