นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) กล่าวว่า ล่าสุด อนันดาฯได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้เกิดขึ้นในวงการอสังหาฯ ด้วยการคว้าที่ดินแปลงงามบนถนนสีลมสายหลัก (Silom Main road) บริเวณปากซอยสีลม 12 ใกล้โรงแรม Pullman Silom และเพียง 350 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี เชื่อมต่อกับ inner CBD ทั้งสาทร และสีลม เพื่อเปิดตัวคอนโดแบรนด์ระดับสูงสุดของอนันดา ได้แก่ Ashton ภายใต้ชื่อโครงการ Ashton Silom (แอชตัน สีลม) โครงการ high-rise คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรีที่ราคาจับต้องได้ (Affordable Luxury Condo) ซึ่งถือว่าเป็นโครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรกที่เกิดขึ้นในรอบทศวรรษบนถนนสีลมเส้นหลัก ที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุด จำนวน 428 ยูนิต สูง 48 ชั้น ประกอบด้วยห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 31-49.5 ตร.ม.และ 2 ห้องนอน ขนาด 71.50 – 86.50 ต.รม. มูลค่าโครงการรวม 6,006 ล้านบาท ด้วยทำเลที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ผสานนวัตกรรม Vertical Interlocking พร้อมความสูงของห้อง 3.6 เมตร และรวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันมากถึง 4 ชั้น ในราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท
"สำหรับแผนการส่งเสริมการตลาดและการขายในช่วงนี้บริษัทฯ ได้จัดงาน Presales เปิดให้ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมห้องตัวอย่างและเปิดโอกาสให้ลูกค้าเลือกจองห้องชุดก่อนใคร พร้อมรับข้อเสนอพิเศษในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากยอดขายมากกว่า 3,600 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือนของการเปิดขาย ทำให้มั่นใจได้ว่าโครงการ แอชตัน สีลม จะเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของอนันดาฯ ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Gen C สมดังปรัชญาการดำเนินธุรกิจ “Urban Living Solution" ได้อย่างลงตัวที่สุด"นายชานนท์ กล่าว
โครงการ แอชตัน สีลม คือ คอนโดมิเนียมแห่งแรก ที่กล้าปักหมุดแลนด์มาร์คบนใจกลางถนนสีลม ด้วยการสร้างสรรค์ตัวอาคารด้วย “New Sculpture Building" ครั้งแรกกับการเปิดมุมมองของที่อยู่อาศัยในรูปทรงอาคารสูง ดูโดดเด่น ทันสมัย สะท้อนวิสัยทัศน์ของผู้ครอบครองได้อย่างลงตัว ด้วยนวัตกรรมใหม่ “Vertical Interlocking" นำเสนอยูนิตพิเศษโดยการเล่นระดับระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน ทำให้ได้ความสูงของเพดานที่ต่างกันเป็นพิเศษสูงสุดถึง 3.6 เมตร* สร้างความรู้สึกโปร่งสบาย พร้อมมอบฟังค์ชั่นการใช้งานในห้องได้อย่างสมบูรณ์แบบ และความพิเศษในทุกยูนิตกับ Master Bathroom ด้วย Jacuzzi เพื่อการอยู่อาศัยที่เหนือระดับ ผสานกับห้องในรูปแบบ L-Shape ทำให้มีความเป็น Corner Units เพิ่มความเป็นส่วนตัวสูง และเปิดมุมมอง “Panoramic View" ของมหานครกรุงเทพฯ
ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตของ “THE PIONEER" ผู้ซึ่งเป็นมากกว่าแค่ผู้ค้นพบ ผู้บุกเบิก ผู้ริเริ่ม เป็นผู้ซึ่งเต็มเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ทางแนวความคิด สไตล์ รสนิยม และการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมือนใคร จึงเป็นที่มาของแนวความคิดในการพัฒนาโครงการ Ashton Silom ที่สะท้อนความเป็นผู้นำในการพัฒนาที่อยู่อาศัยของเมืองไทย ที่นี่จึงเต็มเปี่ยมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากกว่ากับ “Quadruple Facilities" ที่ตอบทุกโจทย์แห่งการใช้ชีวิตอย่างมีเอกลักษณ์สัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวแรก ณ “Alfresco Living Plaza" สวนที่โดดเด่นบนถนนสีลม ถูกออกแบบให้มีการเล่นระดับของพื้นที่ให้สวนและน้ำตกอยู่ด้านล่างเพื่อมอบความสงบได้อย่างเต็มที่จากนั้นเพียงก้าวข้ามสะพานที่เชื่อมต่อกันระหว่างสวนเข้าสู่ภายในอาคารจะได้สัมผัสกับ “Objets’ D’Art Lobby"ตกแต่งด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Time Pause’ และชิ้นงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซที่ได้รับการรังสรรค์อย่างเป็นพิเศษเพื่อสะท้อนการหยุดทุกช่วงเวลาแห่งความเร่งรีบไว้ภายนอกและเริ่มต้นผ่อนคลายได้อย่างไร้กาลเวลา
สัมผัสกับ “Private Theatre Lounge" ห้องชมภาพยนตร์และความบันเทิง, Scenic Steam & Scenic Sauna สำหรับการพักผ่อนอย่างมีอิสระท่ามกลาง Panoramic View ของผืนท้องฟ้าได้ตลอดทั้งวันที่ชั้น 34, “Social Club" พื้นที่สำหรับการพบปะอย่างเป็นกันเองบนชั้น 48 และเชื่อมต่อไปยัง“Botanical Lounge" พื้นที่สวนด้านนอกเพื่อการสังสรรค์ในแบบเอ็กซ์คลูซีฟท่ามกลางผืนฟ้าของมหานครกรุงเทพ
นอกจากนี้ยังจัดให้มี facilities ถึง 4 ชั้น ที่ครบทุกความต้องการ ได้แก่ Swimming Pool, Kid's Pool, Onsen, Jacuzzi, Fitness, Private Fitness, Massage Room, Library และBusiness Lounge กล่าวได้ว่าเป็นโครงการที่นำทุกรายละเอียด ทุกความหรูหราแห่งการใช้ชีวิตมาไว้ในที่เดียวเพื่อความเป็นส่วนตัวเสมือนได้อยู่บ้านอย่างแท้จริง
ด้วยแนวคิดนอกกรอบในการออกแบบสำนักงานขายโดยได้แรงบันดาลใจจาก ‘โรงสีข้าว’ หรือ ‘Wind Mill’ ซึ่งเป็นชื่อแรกของถนนสายประวัติศาสตร์แห่งนี้ ถูกนำมาเป็นหัวใจหลักในการออกแบบทำให้รูปแบบอาคารภายนอกสะท้อนความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากห้วงอดีตที่มีคุณค่าสู่ปัจจุบันและอนาคตที่ไม่รู้จบ ภายในอาคารสะท้อนความงดงามแห่งสุนทรียะและความปราณีตของ ‘Luxury Art Gallery’ ซึ่งเป็นการผสมผสานความแตกต่างได้อย่างลงตัว
นายชานนท์ กล่าวว่า ตลาดคอนโดมิเนียมหรูระดับลักซ์ชัวรีใจกลางเมืองยังคงเป็นตลาดที่น่าจับตามอง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) มีผลทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติสนใจเข้ามาซื้อที่พักอาศัย และลงทุนมากขึ้น จากราคาอสังหาฯ ในกรุงเทพฯยังมีราคาถูกเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น ทำให้มีผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่เข้ามาลงทุนในตลาดนี้เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะทำเลพื้นที่ ย่านถนน สีลม สาทร และนราธิวาส เป็นพื้นที่มีศักยภาพในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างสูง เนื่องจากเป็นทำเลในย่านธุรกิจกลางเมือง มีระบบคมนาคมที่สะดวกทั้งในส่วนของรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ (BRT) จึงมั่นใจว่าดีมานด์ยังดีอย่างต่อเนื่องในปีนี้