นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) กล่าวว่า บริษัทมองโอกาสขยายการลงทุนในช่วงปี 62-71 ไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำมัน เช่น ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เป็นต้น โดยเป็นไปได้ทุกรูปแบบทั้งการลงทุนเอง หรือเข้าร่วมทุนกับพันธมิตร ภายใต้งบลงทุนราว 2,000-2,500 ล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้าสัดส่วนกำไรสุทธิจากธุรกิจ Non Oil ภายใน 3-5 ปีจากนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 10-15% จากเดิมมีไม่ถึง 1%
ส่วนการศึกษาการลงทุนในโรงไฟฟ้าขยะ ขนาด 3-5 เมกะวัตต์ ร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่ภาคใต้ คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปี 60 ซึ่งปัจจุบันพันธมิตรรายดังกล่าวอยู่ระหว่างรอใบอนุญาตขายไฟฟ้า (PPA) จากทางภาครัฐ โดยบริษัทมีนโยบายเข้าถือหุ้นมากกว่า 50% ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างศึกษาขยายธุรกิจปั๊มน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เบื้องต้นสนใจลาวและเวียดนาม คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนในปี 60 เช่นกัน
สำหรับทิศทางผลประกอบการในปีนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโตราว 30-40% จากปี 58 ที่มียอดขาย 2,237 ล้านลิตร เป็นผลมาจากปริมาณการขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตั้งเป้ากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จะไม่ต่ำกว่า 30% โดยเตรียมงบลงทุนรวม 4,500 ล้านบาททั้งในธุรกิจน้ำมัน ค้าปลีก และพลังงานทดแทน ซึ่งมีแผนขยายสถานีบริการน้ำมันในปีนี้เพิ่มเป็น 1,500 แห่งทั่วประเทศ
บริษัทฯคาดแนวโน้มผลดำเนินนงานในช่วงไตรมาส 1/59 จะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นไปตามปริมาณการขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยในเดือนม.ค.มียอดขายราว 2 แสนลิตร/สาขา จากช่วงเดียวกันของปี 58 มียอดขายอยู่ที่ 1.8 แสนลิตร/สาขา รวมถึงยอดสมาชิกบัตร MAX Card มีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่ง ณ สิ้นเดือนก.พ.59 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4 ล้านใบแล้ว และน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 5.6 ล้านใบในปีนี้ ส่วนค่าการตลาดยังอยู่ในระดับทรงตัวที่ 1.60-1.80 บาทถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสมต่อธุรกิจ