GBS มองกรอบ SET 1,360–1,400 จุดลุ้น Window Dressing แต่ยังเสี่ยงปรับฐาน-น้ำมันกดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 17, 2016 16:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยมีแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25%-0.50% ตามคาด และการปรับลดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยตลาดคาดว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.ทั้งนี้ อีกปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทย ได้แก่ การทำ Window Dressing ปลายเดือน มี.ค.จะปิดงวดงบการเงินไตรมาสที่ 1/59

อย่างไรตาม ปัจจัยที่กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยก็ยังคงมีจาก P/E SET ขึ้นมาที่ระดับสูงราว 20 เท่า จึงมีความเสี่ยงปรับฐาน และปัจจัยจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลงหลังจากกำหนดการประชุมลดกำลังการผลิตของประเทศผู้ผลิตรายใหญ่เลื่อนจาก 20 มี.ค.ไปเป็น 17 เม.ย.ขณะที่อิหร่านประกาศชัดเจนว่าจะไม่เข้าร่วมการประชุมเป็นปัจจัยลบกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน

ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง Fund Flow ที่ชะลอตัวหลังจากตอบรับการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ใช้มาตรการ QE เพิ่มเติมไปแล้ว รวมถึง P/E SET ขึ้นมาถึงระดับ 20 เท่า จึงมีความเสี่ยงที่จะปรับฐาน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีแรงซื้อดัก Window Dressing ไตรมาส 1/59 ในจังหวะที่ย่อตัว

ดังนั้น คาดว่า SET จะแกว่งตัว 1,360–1,400 จุด แนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวในกลุ่มที่มีปัจจัยบวก แนะนำ KSL,BRR จากราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้นปรากฏการณ์เอลนิโญ่ และภาวะภัยแล้ง กลุ่มอสังหาฯแนะนำ PS, LPN ,SENA ที่จะเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ที่คาดว่าจะเสนอเข้าครม.อังคารหน้า และกลุ่มที่คาดว่ากำไรปี 59 เติบโตขึ้น ได้แก่ BEM,TOP, IRPC, KCE ,BIG, XO,PTG

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับตัวลงจากแรงกดดันค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังจากที่ นายเอิร์กกี ไลคาเนน สมาชิกสภาบริหาร ECB เผยว่า ECB ยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเหลืออยู่และจะนำมาใช้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ส่งผลให้ค่าเงินยูโรกลับมาอ่อนค่า บวกกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการ ลดอัตราดอกเบี้ยและเพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรสู่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนจากเดิม 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ทำให้เงินลงทุนบางส่วนย้ายออกจากตลาดทองคำไปยังตลาดหุ้น รวมถึงแรงขายของนักลงทุนก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะประชุมเสร็จสิ้นในวันที่ 16 มี.ค.นี้ ตามเวลาสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม การที่เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด บวกกับราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับลงจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดขณะที่อิหร่านยืนยันไม่ลดกำลังการผลิตจะเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ

ดังนั้น ประเมินแนวโน้มราคาทองคำโลกด้านเทคนิคว่า ราคาทองเริ่มแกว่งตัวออกข้างในกรอบที่แคบขึ้นหลังลงแรง บวกการสร้างแท่งเทียนลักษณะ STAR จะทำให้ราคามีโอกาสฟื้นตัวเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามการปรับลงต่ำกว่าแนวรับเส้น 5 และ 10 วัน และการเกิดสัญญาณ DEAD CROSS ระยะสั้น บวกแนวลงแท่งเทียนที่เข้าโครงสร้างรูปแบบ ROUNDING TOP จะกดดันให้ราคาแนวโน้มฟื้นตัวช่วงสั้นๆเท่านั้นก่อนปรับลงต่อตามรูปแบบ โดยให้แนวรับ 1,195 –1,190 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,275 –1,280 เหรียญต่อทรอยออนซ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ