บมจ.เธียรสุรัตน์ (TSR) คาดว่าในปีนี้รายได้และกำไรจะทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีรายได้ 1.6 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 145.9 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้น และการเพิ่มสินค้าใหม่ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยบริษัทเตรียมงบลงทุนในปีนี้ราว 45-47 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาเพิ่มอีก 5-7 สาขา ขยายโรงงาน และปรับปรุงระบบไอที พร้อมทั้งเตรียมบุกขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งบริษัทคาดว่าในไตรมาส 2/59 จะสรุปแผนลงทุนในลาว ขณะที่บริษัทเตรียมขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 เม.ย.ในการทยอยออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทภายในปีนี้เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ
นายวิรัช วงศ์นิรันดร์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เธียรสุรัตน์ (TSR) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตราว 30% หรือมาอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 1,617.28 ล้านบาท และกำไรสุทธิก็จะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 145.95 ล้านบาท เนื่องจากมีแผนเปิดสาขาในต่างจังหวัดเพิ่มอีก 5-7 แห่ง จากสิ้นปี 58 มีสาขารวมอยู่ที่ 14 สาขา และมีศูนย์บริการ 6 แห่ง
รวมถึงมีแผนขยายไลน์สินค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจากับคู่ค้าเพื่อนำเครื่องซักผ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอื่นๆมาจำหน่ายเพิ่มเติม คาดสัดส่วนรายได้จากเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้จะเพิ่มมาที่ 10% จากเดิม 5% ที่เหลือจะเป็นเครื่องกรองน้ำและสารกรอง 90%
"ปีที่ผ่านมาเรามีการออกเครื่องกรองน้ำไป 3 รุ่น ขณะที่ปีนี้เราก็มีสินค้าอื่นๆ ประเภทสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ที่จะเข้ามาเพิ่มเติม เป็นสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูง ส่วนเครื่องกรองน้ำเราก็มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นไปอีก และมีแผนที่จะพัฒนาไปสู่เครื่องกรองน้ำภายในโรงงานด้วย คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 2/59" นายวิรัช กล่าว
บริษัทวางงบลงทุนรวมในปีนี้ราว 45-47 ล้านบาท แบ่งเป็นเพื่อใช้ในการขยายสาขาใหม่ จำนวน 1 ล้านบาทต่อสาขา และลงทุนโรงงานใหม่ พื้นที่ 1,300 ตารางเมตร เพื่อรองรับการขยายตัวของสินค้าที่จะเพิ่มขึ้น คาดว่าเดือน เม.ย.59 จะดำเนินการก่อสร้างได้ และจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.นี้ ใช้เงินลงทุนราว 15-20 ล้านบาท รวมถึงยังมีการลงทุนในส่วนของระบบคอมพิวเตอร์ คาดใช้วงเงินลงทุนไม่เกิน 20 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยมีความสนใจที่จะลงทุนในประเทศลาว และเวียดนาม แต่น่าจะเกิดขึ้นในลาวก่อน ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการศึกษาในรูปแบบการลงทุน และน่าจะเป็นไปได้ทั้งการเข้าร่วมลงทุน (Joint Venture) หรือการแต่งตั้งตัวแทนการจำหน่าย คาดจะสามารถได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2/59
นายวิรัช กล่าวว่า บริษัทฯเตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 เม.ย.59 ออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท เพื่อใช้รองรับแผนขยายธุรกิจ ซึ่งหากได้รับการอนุมัติดังกล่าว การออกหุ้นกู้น่าจะเป็นการทยอยออกตลอดทั้งปี ขณะที่บริษัทฯยังมีหนี้สินต่อทุน D/E ที่ 0.7 เท่า ยังมีความสามารถในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินได้อีกมาก
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/59 น่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายสาขา โดยล่าสุดได้ย้ายที่ทำการและขยายสาขาพิษณุโลก และเปิดสาขาในต่างจังหวัดเพิ่ม 2 แห่ง คือ สาขาบุรีรัมย์ และมุกดาหาร อีกทั้งในช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ จะย้ายที่ทำการศูนย์บริการสงขลาพร้อมปรับปรุงเป็นสาขาที่หาดใหญ่