นายฤทธี กิจพิพิธ กรรมการบริหาร ผู้อำนวยการสายงานบริหารและการตลาด บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) เปิดเผยว่า บริษัทมีแนวคิดผลักดันบริษัท สยามวาสโก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SCN ที่ถือหุ้น 100% เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในอนาคต หลังได้ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 200 ล้านบาท จากเดิม 20 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนรุกขยายธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์อย่างจริงจัง หลังภาครัฐมีนโยบายประกาศลอยตัวราคาก๊าซธรรมชาติ NGV และให้ภาคเอกชนลงทุนทำธุรกิจสถานีก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์ได้อย่างเสรี
สำหรับธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์ต่อจากนี้จะดำเนินงานภายใต้บริษัท สยามวาสโก จำกัด ทั้งหมด โดยมีแนวทางทั้งในรูปแบบการเข้าซื้อกิจการ (M&A) หรือลงทุนพัฒนาด้วยตัวเอง เบื้องต้นคาดว่าจะขยายเพิ่ม 3 แห่งภายในปีนี้ จากปัจจุบันที่มี 7 แห่ง แบ่งเป็นสถานีที่บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการเอง 4 แห่งและเป็นสถานีที่ร่วมทุนกับ บมจ. ซัสโก้ อีก 3 แห่ง ส่งผลให้สิ้นปีนี้จะมีสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์เพิ่มเป็น 10 แห่ง
"บริษัทมีแผนจะเข้าซื้อปั๊มก๊าซ NGV ทั้งหมด 3 แห่ง มูลค่าราว 600 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2/59 นี้ แต่หากการเข้าซื้อดังกล่าวใช้งบต่ำกว่าที่คาด บริษัทฯก็จะพิจารณาเข้าซื้อกิจการหรือลงทุนปั๊มเองเพิ่มเติมอีก"นายฤทธี กล่าว
ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวเพื่อรองรับปริมาณความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์ในภาคขนส่ง ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหลังจากประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการขนส่งสินค้าเพิ่มสูงขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ ซึ่งช่วยผลักดันปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV ให้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยคาดว่ายอดขายจากธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์เฉลี่ยจะสูงกว่า 450,000 กิโลกรัมต่อวัน หรือคิดเป็นรายได้ปีละประมาณ 2,000 ล้านบาท
“ปีนี้เราจะรุกขยายธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์ให้มากขึ้น เนื่องจากเห็นโอกาสการขยายตัวของปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV ในกลุ่มภาคขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น จากปัจจัยราคาที่ยังถูกกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ เช่น น้ำมันดีเซล ที่คาดว่าราคาก๊าซธรรมชาติ NGV จะถูกกว่าถึง 50% หลังแนวโน้มของราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มทยอยตัวสูงขึ้น จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนที่จะช่วยกระตุ้นปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV" นายฤทธี กล่าว
นายฤทธี กล่าวอีกว่า บริษัทมั่นใจรายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากปีก่อนมีรายได้ 2.1 พันล้านบาท หลังจากในช่วงปลายปีก่อนบริษัทได้เข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้เข้าซื้อกิจการ บริษัท เก้าเจริญ โลจิสติกส์ จำกัด ที่คาดหวังจะมีรายได้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 1/59 ทั้งรายได้และกำไรสุทธิน่าจะดีกว่าไตรมาส 1/58 และไตรมาส 4/58 ตามปริมาณการขายก๊าซที่สูงขึ้น และมีการเพิ่มกำลังการผลิตในทุกๆหน่วยธุรกิจทั้งในธุรกิจก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับอุตสาหกรรม (iCNG) ธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลักโดยเอกชน (PMS) ธุรกิจขนส่งก๊าซธรรมชาติ (TPL) และสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (PBS)
ขณะเดียวกันบริษัทฯอยู่ระหว่างหาแหล่งก๊าซธรรมชาติสำหรับอุตสาหกรรม (iCNG) โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 100 ล้านบาท/1 แห่ง ซึ่งจะสามารถสรุปได้ภายในช่วงครึ่งปีแรกนี้ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังไม่สามารถเปิดเผยถึงสถานที่และจำนวนแหล่งที่จะเข้าซื้อได้